กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร 2008 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่สอง กลุ่มบี)
โครเอเชีย 2 - เยอรมัน 1
โครเอเชียซึ่งเฉือนออสเตรียได้ 1-0 ในเกมแรกปรับทัพแค่ตำแหน่งเดียวด้วยการถอดดาวยิงมลาเดน เปตริชที่เล่นได้อย่างน่าผิดหวังออกส่งอีวาน ราคิติชลงไปแพ็คแดนกลางเพิ่มขณะที่หัวหอกตัวเป้ายังคงเป็นอีวิก้า โอลิช ด้านทีม "เต็งแชมป์" เยอรมันวางใจขุนพลชุดเดิมที่สยบโปแลนด์ได้อย่างราบคาบ 2-0 โดยลูคัส โพดอลสกี้ แมน ออฟ เดอะ แมตช์เกมที่แล้ว ซึ่งเหมากดคนเดียวสองประตูยังได้รับบทปีกซ้ายต่อไป
อินทรีเหล็กเป็นฝ่ายเขี่ยบอลเริ่มเกมก่อนพร้อมทั้งเดินหน้าเข้าใส่ แต่ยังเล่นกันได้ไม่มีอันตรายมากพอจึงทำอะไรโคเอเชียไม่ถนัด กระทั่งนาทีที่ 22 หลังจากเกมออกรสจืดชืดอยู่นาน ทอร์สเท่น ฟริงก์สมิดฟิลด์เมืองเบียร์ก็ตักบอลจากแดนกลางให้มาริโอ โกเมซโฉบเข้าเขตโทษไปแปเข้าประตู แต่ก็เป็นจังหวะล้ำหน้าแล้ว
และในที่สุดอีกสองนาทีต่อมาทีมตาหมากรุกก็ช็อคโลกจนได้เมื่อดานิเยล ปรานยิชเติมเกมขึ้นกราบซ้ายแล้วบรรจงสาดบอลเข้าเขตโทษโดยที่ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ ทำท่าว่าจะกระโดดโขกสกัด แต่กลับหดศีรษะลงทำให้บอลลอยไปถึงเสาไกลโดยมีดาริโย เซอร์น่า เข้าชาร์จระยะหกหลาได้ก่อน มาร์เซล ยานเซ่น ส่งบอลเข้าปะทะตาข่ายเป็นสกอร์นำ 1-0 ของโครเอเชีย
เยอรมันเลือดขึ้นหน้าบุกกระหน่ำใส่คู่แข่งทันที และในนาทีที่ 27 เซอร์น่าก็เข้ารวบโพดอลสกี้จึงรับใบเหลือง กระนั้นล่วงมาอีกสามนาที ราคิติช ก็ฉีกตัวไปโยนบอลจากด้านซ้ายเข้าเขตโทษแล้วโอลิชโขกตั้งย้อนกลับมา แต่นิโก้ ครานชาร์ ปรี่เข้าซัดระยะ 16 หลาโด่งออกไปอย่างน่าเสียดาย
จวบจนนาทีที่ 33 อินทรีเหล็กก็ได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะ 30 หลาหลังจาก โรเบิร์ต โควัช ทำฟาวล์มิโรสลาฟ โคลเซ่ มิชาเอล บัลลัค จึงวิ่งเข้ากระหน่ำเต็มเกือกถูกสติเป้ เปลติโกซ่าปัดได้หวุดหวิด จากนั้น ทีมเมืองไส้กรอกไม่ใส่ใจเดินเครื่องโจมตีโครแอตต่อก่อนจะมาได้ลูกเตะมุมด้านซ้ายในนาทีที่ 40 ฟริงก์ส จึงป้อนบอลเข้าหาปากประตู ทว่า คริสโตฟ เม็ตเซลเดอร์ โถมโขกจากระยะแปดหลาข้ามคานไปไม่ถึงคืบ
นาทีที่ 42 ทีมเต็งแชมป์เกือบเสียหายเพิ่มเมื่อ เวดราน ชอร์ลูก้า บุกขึ้นทางขวากระชากบอลหนีแยนเซ่น ไปได้จึงไหลเข้าเขตโทษแล้ว โอลิช ตบคืนให้ ครานชาร์ วอลเลย์เหน่งๆระยะ 12 หลาแต่เยนส์ เลห์มันน์ เซฟได้อย่างไม่น่าเชื่อ และจากลูกเตะมุมด้านซ้ายของโครเอเชีย แฟนทีมเยอรมันก็ต้องเสียวกันอีกเมื่อ เลห์มันน์ ออกมาชกบอลทิ้งแล้วถูก เซอร์น่า ยิงจากมุมแคบสวนเข้ามา ดีที่ว่าบอลตุงตาข่ายด้านข้าง
กระทั่งนาทีที่ 44 ทีมของโยอัคคิม เลิฟก็ได้ลุ้นจากจังหวะที่ บัลลัค จ่ายบอลโด่งจากกราบขวาเข้าเขตโทษให้โกเมซโขก แต่ดาวยิงเมืองเบียร์เข้าชาร์จเปลติโกซ่าก่อนทำให้นายทวารโครแอตรับบอลหลุดมือถูก โคลเซ่ เก็บตกเผาขนตุงตาข่ายจึงเป็นลูกฟาวล์ไปก่อน
จากนั้น ช่วงทดเวลาเจ็บผู้ตัดสินก็ชูใบเหลืองให้โยซิป ซิมูนิชกองหลังทีมตาหมากรุกโดยระบุว่าเตะบอลทิ้งทั้งๆที่บอลหลุดออกเส้นข้างไปแล้วจึงทำเอากุนซือ สลาเวน บิลิช โวยแหลก ก่อนที่เกมในครึ่งแรกจะยุติโดยที่โครเอเชียนำไปก่อน 1-0
ครึ่งหลัง อินทรีเหล็ก เปลี่ยนแบ็คซ้ายยานเซ่นที่ออกทะเลมาตั้งแต่ต้นเกมออกส่ง ดาวิด โอดอนคอร์ ลงไปแทนทางด้านขวาโดยย้าย ฟิลิป ลาห์ม ไปเล่นเป็นแบ็คซ้าย และแค่สามนาที ลาห์ม ก็ลุยขึ้นไปจ่ายบอลเข้าเขตโทษบีบให้เปลติโกซ่าชกทิ้งมาเข้าทางปืนบัลลัค แต่กัปตันเมืองเบียร์ซัดจากระยะ 20 หลาโด่งออกไป
เยอรมันพยายามกันใหม่ แต่นาทีที่ 52 ลูก้า โมดริช ดาวรุ่งโครแอตได้โอกาสลากบอลขึ้นไปตะบันจากหน้าเขตโทษทำเอาเลห์มันน์ต้องตะครุบซ้ำในจังหวะสองหลังจากซองแตกรับหลุดมือ กระนั้นก็ดี นาทีที่ 62 ทีมด๊อยทช์ซึ่งเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานอยู่นานก็ถูกสอยตาข่ายเพิ่มจนได้ คราวนี้ ราคิติช เปิดบอลยาวจากด้านขวาเข้าไปแล้วแฉลบผู้เล่นเยอรมันบอลจึงพุ่งชนเสาแรกกระดอนออกมาให้ โอลิช ปรี่เข้าเก็บตกนิ่มๆ 4 หลาสบายแฮพาทีมตาหมากรุกนำห่าง 2-0
นาทีที่ 65 เยอรมันเปลี่ยน โกเมซ ที่ไร้พิษสงออกส่ง บาสเตียน ชไวน์สไตน์เกอร์ ลงไปแทน ขณะที่โครเอเชียถอด โอลิช ออกปล่อย เปตริช ลงบู๊ในนาทีที่ 72 แต่นาทีต่อมา ชไวนี่ เกือบตีไข่แตกให้เยอรมันได้จากการลุยขึ้นไปถึงเส้นหลังด้านซ้ายแล้วตัดสินใจซัดมุมแคบส่งบอลกลิ้งถากหน้าปากประตูออกไปนิดเดียวเท่านั้น
ขยับมาอีกสองนาทีบัลลัคก็ได้ใบเหลืองข้อหาเสียบ ราคิติช ก่อนที่ ครานชาร์ จะหาโอกาสยิงไกลอีกหนแต่ไม่ผ่านมือ เลห์มันน์ นาทีที่ 79 เยอรมันก็มาได้ประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 จากจังหวะ ฟิลิปป์ ลาห์ม เปิดด้วยขวาเข้ากลางให้ บัลลัค โหม่งไปติดหัว เวดรัน ชอร์ลูก้า บอลกระดอนเข้าทาง ลูคัส โพดอลสกี้ ซัดเต็มข้อบอลตุงตาข่าย
เข้าสู่นาทีสุดท้าย สถานการณ์ เยอรมัน ก็เลวร้ายลงไปอีกเมื่อต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนจาก บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ มาโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม หลังไปผลักอก เยอร์โก้ เลโก้ ทำให้ในที่สุดอินทรีเหล็กก็แก้เกมไม่ตกเล่นกันได้อย่างไม่เป็นโล้เป็นพายหมดเวลาจึงพ่ายไป 1-2 ยังผลให้โครเอเชียจ่อลอยลำเข้ารอบค่อนข้างแน่
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
โครเอเชีย : 1-สติเป้ เปลติโคซ่า ; 5-เวดรัน ชอร์ลูก้า, 4-โรเบิร์ต โควัช, 3-โยซิป ชิมูนิช, 22-ดาเนี่ยล ปรานยิช ; 11-ดาริโย่ เซอร์น่า, 10-นิโก้ โควัช (กัปตันทีม), 14-ลูก้า โมดริช, 19-นิโก้ ครันชาร์ ; 7-อีวาน ราคิติช, 18-อีวิก้า โอลิช
เยอรมัน : 1-เยนส์ เลห์มันน์ ; 16-ฟิลิปป์ ลาห์ม, 17-แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, 21-คริสโตฟ เม็ตเซลเดอร์, 2-มาร์เซลล์ ยานเซ่น ; 4-เคลเมนส์ ฟริตซ์, 8-ทอร์สเท่น ฟริงก์ส, 13-มิชาเอล บัลลัค (กัปตันทีม), 20-ลูคัส โพดอลสกี้ ; 11-มิโรสลาฟ โคลเซ่, 9-มาริโอ โกเมซ
ออสเตรีย 1 - โปแลนด์ 1
ทีมชาติออสเตรีย ชาติเจ้าภาพร่วมลงสนามพบ โปแลนด์ คู่แข่งกลุ่มบี. ในยูโร 2008 รอบแรก นัดที่ 2 ที่เวียนนา หลังจากเกมแรก ออสเตรียแพ้ โครเอเชีย 0-1 และโปแลนด์แพ้เยอรมัน 0-2 ทำให้ทั้งสองทีมต้องชนะให้ได้ เพื่อรักษาความหวังในการลุ้นเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายให้มีอยู่ต่อไป
โยเซฟ ฮิคเกอร์สแบร์เกอร์ โค้ชออสเตรียส่ง มาร์ติน ฮาร์นิค กับ โรลันด์ ลินซ์ เป็นกองหน้าตัวหลัก ส่วนลีโอ บีนฮัคเกอร์ กุนซือโปแลนด์ส่ง มาเร็ค ซากานอฟสกี้ กองหน้าเซาธ์แฮมป์ตัน เล่นแทน มาเซียจ ซูราฟสกี้ ที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาขวาจากเกมพบเยอรมัน โดยมี โรเจอร์ เกอร์ไรโร่ นักเตะที่เกิดในบราซิลและได้รับการโอนสัญชาติเป็นพลเมืองโปแลนด์เมื่อเดือนเมษายนทำหน้าที่เพลย์เมกเกอร์
เกมครึ่งแรก นาทีที่ 5 เท่านั้น อันเดรียส อีวานชิทซ์ มิดฟิลด์กัปตันทีมออสเตรียได้ยิงเต็มเท้า แต่บอลไม่เข้ากรอบ และนาทีที่ 10 โอกาสเป็นของออสเตรียอีกครั้ง เมื่อ มาร์ติน ฮาร์นิค กองหน้าหลุดเดี่ยวเข้าไปซัลโว แต่เขายิงออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 13 ออสเตรียมีลุ้นอย่างต่อเนื่อง อูมิต คอร์คมาซ เปิดบอลให้ มาร์ติน ฮาร์นิค แประยะ 6 หลาติด อาร์เทอร์ โบรุค นายทวารโปแลนด์ใช้ชาเซฟไว้ได้ โดยสองนาทีต่อมา เรเน่ เอาฟ์เฮาเซ่อร์ ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงหน้าประตู ทว่าอาร์เทอร์ โบรุคเซฟได้เยี่ยม
แต่หลังจากนั้น โปแลนด์เริ่มได้บอล และแล้วนาที 29 โปแลนด์มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 มาเร็ค ซากานอฟสกี้ ครองบอลในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนเปิดไปที่เสาสองให้ โรเจอร์ เกอร์ไรโร่ แประยะเผาขนตุงตาข่าย
แมตช์ผ่านมาถึงช่วงท้ายครึ่งแรก นาที 40 ยาเซ็ค เคอร์ซีโนเว็ค มิดฟิลด์โปแลนด์เปิดลูกเตะมุม บอลไซด์โค้งเกือบเข้าประตู แต่เยอร์เน มาโช ผู้รักษาประตูออสเตรียใช้มือชกบอลออกไปได้อย่างหวุดหวิด และนาที 45 โปแลนด์ได้ฟรีคิกจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย คริสโตฟ ไลท์เก็บ รับหน้าที่สังหารฟรีคิก บอลพุ่งผ่านหน้าประตูออกเส้นหลังไป จบครึ่งแรก โปแลนด์นำอยู่ 1-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง นาที 46 โปแลนด์ เปลี่ยนเอา มาริอุส ย็อป เซนเตอร์ฮาล์ฟออกจากสนาม โดยส่ง พาเวล โกลานสกี้ ลงเล่นแทน และนาทีต่อมา โกลานสกี้ ตัวสำรองของโปแลนด์ไปดึงเสื้อของ อันเดรียส อีวานชิทซ์ กัปตันทีมออสเตรียในกรอบเขตโทษ แต่ โฮเวิร์ด เว็บบ์ ผู้ตัดสินชาวอังกฤษไม่ได้ให้ ออสเตรีย ได้ลูกจุดโทษแต่อย่างใด
นาที 50 โปแลนด์โต้กลับเร็ว โรเจอร์ เกอร์ไรโร่ โยนบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายให้ เอบี สโมลาเร็ค ยิงไปติด เยอร์เก้น มาโช ผู้รักษาประตูออสเตรีย และนาที 53 อูมิต คอร์คมาซ กองกลางออสเตรียได้โหม่งในกรอบเขตโทษ แต่บอลไปตรงตัว อาร์เทอร์ โบรุค
โปแลนด์มีลุ้นในการได้ประตู เมื่อ โรเจอร์ เกอร์ไรโร่ โยนบอลแม่นยำให้ ยาเซ็ค บัค กัปตันทีมซัดไปติดเท้าของ เยอร์เก้น มาโช ผู้รักษาประตูออสเตรีย ก่อนที่ มาเร็ค ซากานอฟสกี้ ซัลโวซ้ำข้ามคานไปอย่างหวุดหวิดนาที 62 จากนั้นโปแลนด์ยังบุกอย่างต่อเนื่อง ยาเซ็ค เคอร์ซีโนเว็ค มิดฟิลด์โปแลนด์ยิงฟรีคิกระยะไกล 30 หลา แต่เยอร์เก้น มาโช นายทวารเซฟเอาไว้ได้นาที 67
เกมทำท่าว่าจะจบเพียงเท่านี้แต่แล้ว กองเชียร์เจ้าภาพก็ได้เฮ เมื่อมาได้ลูกจุดโทษ แล้วก็เป็น อีวิก้า วาสติช รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ตีเสมอเป็น 1-1 จบเกม โปแลนด์ เสมอ ออสเตรีย 1-1 ส่งผลให้ทั้งสองทีมยังมีลุ้นที่จะผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ออสเตรีย : 21-เยอร์เก้น มาโช ; 14-กิออร์กี้ การิชส์, 15-เซบาสเตียน เพรอเดล, 3-มาร์ติน สตรานเซิ่ล, 4-เอมานูเอล โปกาเตตซ์ ; 8-คริสโตฟ ไลท์เก็บ, 6-เรเน่ เอาฟ์เฮาเซ่อร์, 10-อันเดรียส อีวานชิทซ์ (กัปตันทีม), 11-อูมิต คอร์คมาซ ; 20-มาร์ติน ฮาร์นิค, 9-โรลันด์ ลินซ์
โปแลนด์ : 1-อาร์เทอร์ โบรุค ; 13-มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้, 2-มาริอุส ย็อป, 6-ยาเซ็ค บัค (กัปตันทีม), 14-มิชาล เชฟลาคอฟ ; 18-มาริอุส เลวานดอฟสกี้, 5-ดาริอุส ดุ๊ดก้า, 8-ยาเซ็ค เคอร์ซีโนเว็ค ; 11-มาเร็ค ซากานอฟสกี้ ; 20-โรเจอร์ เกอร์ไรโร่, 7-เอบี สโมลาเร็ค
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
