หมอ ไทย ขององค์การอนามัยโลก ชี้การแพร่ระบาดของโรคร้ายในขณะนี้ ถือว่าเป็นการเตือนสถานการณ์ว่า อาจยกระดับเข้าสู่การติดเชื้อระลอก 2 จะนิ่งนอนใจ ไม่ได้ ทุกรพ.ต้องแจ้งข้อมูลใหม่ให้กระทรวงสาธารณสุขทราบ
นพ. ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือองค์การอนามัยโลก ไวรัสสัตว์สู่คน กล่าววันนี้ (7 ก.ค.) ในรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" ทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 อสมท ถึงการแพร่ระบาดโรคไข้หวดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า จะมีลักษณะดังนี้ คือ 1.มีน้ำมูก ไอจาม สามารถหายเองได้ แม้จะมีไข้หรือไม่มีไข้ก็สามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ 2.ผู้ได้รับเชื้อใหม่ๆ ที่ยังไม่แสดงอาการ กลุ่มนี้มีสิทธิ แพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ แม้จะมีอัตราต่ำ แต่ก็สามารถแพร่เชื้อได้จากการพูดคุย สำหรับ ผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในระดับปานกลาง-มาก เชื้อโรคจะแพร่เชื้อเข้าสู่ระบบทางเดินโลหิต ปอด ทางเดินหายใจ ปอดหายใจล้มเหลว หาก อาการหนักจะแพร่สู่ระบบสมอง เยียวยายาก ทำให้คนไข้ไม่รู้สึกตัว สมองบวม ตับมีภาวะผิดปกติ
ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือองค์การอนามัยโลก ไวรัสสัตว์สู่คน กล่าวต่อถึงการรับมือโรคร้ายว่า ต้องไม่โทษกระทรวงสาธารณสุข ที่มีภาระล้น มือ เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคน ที่คิดว่า ตัวเองอาจแพร่เชื้อโรค ไอจาม ต้องดึงตัวเองออกจากสังคม ไปอยู่ที่บ้าน เป็นสัดส่วน แยกภาชนะ จานชาม ถ้วยแก้ว ใส่หน้ากากอนามัย ทำความสะอาดบ้าน จากนั้นสังเกต อาการหาก 2-3 วันไข้ไม่ลดลง ต้องรีบไปโรงพยาบาล เพื่อตรวจหาอาการว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไข้หวัดตามฤดูกาล ไข้หวัดนก หรือ ติดเชื้อแบคทีเรียทั่วไป
นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวต่ออีกว่า การแพร่ระบาดของโรคร้ายในขณะนี้ ถือว่าเป็นการเตือนสถานการณ์ว่า ยกระดับเข้าสู่การติดเชื้อระลอก 2 หรือไม่ จะใจเย็นหรือนิ่งนอนใจ ไม่ได้ ทุกโรงพยาบาลต้องแจ้งข้อมูลใหม่ให้กระทรวงสาธารณสุขทราบ
ผู้สื่อ ข่าวถามว่า การแพร่ระบาดระลอก 2 น่ากลัวถึงขั้นต้องปิดประเทศหรือไม่ นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า รอบ 2 นี้ หากไม่ปรับเปลี่ยนวิธีรับมือ อาจน่ากลัวถึงขั้นต้องปิดประเทศ เพราะไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีความสามารถในการแพร่เชื้อสูงมาก เช่นจาก 1 ไปเป็น 2-3 คนและสามารถติดต่อได้ทุกคน ตั้งแต่เด็กยันคนแก่ หากมีการแพร่ระบาดระลอก 2 จะเตรียมอุปกรณ์รับมือได้ยากมาก ดังนั้น ผู้ที่สงสัยว่าอาจติดเชื้อนี้ต้องรีบไปหาแพทย์ ขณะที่แพทย์ พยาบาล สาธารณสุขทั่วไป ถือเป็นกลุ่มเสี่ยง ที่มีอาการแม้แต่นิดเดียวต้องรีบตรวจสอบเพราะ อาจแพร่เชื้อไปสู่คนไข้ในโรงพยาบาลที่มีภูมิคุ้มกันน้อยได้
"สำหรับคนไข้ที่ต้องไปพบหมอ คือ ผู้ที่มีอาการไข้มากกว่าไข้หวัดตามฤดูกาล มีไข้สูงขึ้นเรื่อยๆ หลังเป็นไข้ 2-3 วัน มีอาการแย่ลงเรื่อยๆ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ระบบทางเดินอาหาร คลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว เด็กซึมไม่รับประทานอาหาร คนแก่ที่มีโรคประจำตัวเป็น อัมพฤกษ์ ซึมลงไปอีก ต้องรีบพาไปพบแพทย์" นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว
ที่มา ไทยรัฐ