หน้าแรก | ลงโฆษณาฟรี l หางาน l คอมพิวเตอร์ l เว็บบอร์ด | ตลาดออนไลน์ | อัตราค่าลงโฆษณา
www.cmprice.com เว็บไซต์ของฅนเชียงใหม่ ผ้าพันคอราคาถูก ราคาส่ง เชียงใหม่ ลำพูน

หน้าแรก » เว็บบอร์ด
ข่าวทั่วไป
เว็บบอร์ด » ข่าวทั่วไป
รายละเอียดของห้อง : ข่าวบันเทิง ข่าวกีฬา ข่าวน่าสนใจทั่วไป
กระทู้ที่ตอบกลับล่าสุด | สร้างกระทู้ใหม่ | ดูกระทู้ทั้งหมด | ค้นหากระทู้ :
คนไทยตายหวัด2009 สะสม 111 ราย

แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV
คนไทยตายหวัด2009 สะสม 111 ราย
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 19 ส.ค. 52 เวลา 13:31:18 IP: Hide ip    


กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน


 

© เนื้อหาข่าว/กระทู้

 

หวัด2009

สธ.เผยสถานการณ์ไข้หวัด2009มียอดผู้เสียชีวิตสะสม111ราย

นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 9-15 ส.ค.ที่ผ่านมา มียอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่มขึ้นอีก 14 ราย เป็นชาย 7 ราย และหญิง 7 ราย ซึ่งผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ 85% มีโรคประจำตัว

ทั้งนี้ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมจากเชื้อโรคดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.-15 ส.ค.52 เพิ่มเป็น 111 รายแล้ว โดยเพิ่มขึ้นจากการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมาที่มียอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 97ราย โดยแนวโน้มการแพร่ระบาดในกทม.ลดลง แต่ตามต่างจังหวัดกลับเพิ่มขึ้น

ด้าน องค์การอนามัยโลกหรือฮูกล่าววานนี้ว่า ประเทศในซีกโลกภาคเหนือได้สั่งวัคซีนป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือเอช 1 เอ็น1เป็นจำนวนมากกว่า 1,000  ล้านหน่วย ซึ่งทำให้เกิดคำเตือนว่าอาจจะทำให้เกิดการขาดแคลนวัคซีนนี้ได้ รายงานข่าวกล่าวว่าบางประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งกรีช เนเธอแลนด์ แคนาดา และอิสราเอล ได้สั่งวัคซีนนี้เป็นจำนวนถึง 2 เท่า  เพื่อนำไปฉีดป้องกันโรคให้กับประชาชนทั้งหมดของแต่ละประเทศ

ส่วนประเทศอื่น ๆ เช่น เยอรมนี สหรัฐ อังกฤษ และฝรั่งเศสได้สั่งวัคซีนนี้เพื่อนำไปใช้ป้องกันโรคให้กับประชาชนในประเทศ ของตนเองร้อยละ 20-78 ของประชากรทั้งหมด.

ที่มา โพสต์ทูเดย์

 

เตือนภัยไข้หวัด 2009 ระบุอีก 2 เดือนข้างหน้ายังอันตรายอยู่

“หมอมงคล” ออกโรงช่วยรณรงค์ เตือนภัยไข้หวัด 2009 ระบุอีก 2 เดือนข้างหน้ายังอันตรายอยู่ กลัวเชื้อกลายพันธุ์ แนะประชาชนควรตื่นตัวตลอดเวลา ขณะที่ “รมว.สธ.” กำชับห้ามประมาทถึงแม้อยู่ในช่วงชะลอตัว หวั่นวิตกปลายฝนต้นหนาว อาจระบาดใหญ่อีกระลอก พร้อมยอมรับปัญหาผลิตวัคซีน ผลฉีดเชื้อไวรัสเข้าไปในไข่เยอรมัน ยังไม่ค่อยเข้าเป้า ต้องเดินหน้าทดลองอีก และเร่งหารือกับผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลก ขณะที่ “โฆษกสธ.” เผยโรคจิตโทรก่อกวน แทะโลมเจ้าหน้าที่สาว สายด่วน 1422 เฉลี่ยมากถึงวันละ 129 สาย

ที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 18 ส.ค. นายวิทยา แก้วภราดัย รมว. สาธารณสุข กล่าวถึงปัญหาในการผลิตวัคซีนป้อง  กันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ผลการ  คำนวณปริมาณเชื้อไวรัสที่ฉีดเข้าไปในไข่จาก  ประเทศเยอรมนี ได้ปริมาณเชื้อไวรัสต่ำกว่าที่   คาดการณ์และอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตยังไม่ได้รายงานให้ ครม.ทราบในเรื่องนี้ ถ้าไม่เป็นไปตามเป้าหมายก็ไม่สามารถไปฝืนได้ การ   ทดลองถ้าไม่สำเร็จก็ไม่สำเร็จ ตนไม่อยากให้ประชาชนกังวลว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ แต่อยากให้กำลังใจในการผลิต ก่อนที่จะนำวัคซีนมาใช้จะต้องได้มาตรฐานและปลอดภัยจริง ๆ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ทำเล่น ๆ หรือมาทดลอง   กันเล่น ๆ และท้ายที่สุดหน่วยงานที่จะรับรองมาตรฐาน คือสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
       
“การผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จะสำเร็จหรือไม่ จะเอาไข่ไทยหรือไข่จากเมืองนอกเป็นเรื่องรายละเอียด แต่ทั้งหมดเมื่อผลิตออกมาแล้วต้องได้มาตรฐาน ถ้าไม่ได้มาตรฐานก็ใช้ไม่ได้”
       
ด้านนายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐอเมริกา (ซีดีซี) ประกาศลดมาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยให้ผู้ป่วยหยุดพักรักษาตัว 3-5 วัน จากเดิม 7 วัน ว่า ประเทศไทยใช้การรักษาโดยดูจากอาการของผู้ป่วยเป็นหลัก ซึ่งการเก็บตัวอย่างต่าง ๆ ก็เพื่อตรวจสอบว่าการระบาดรอบ 2 จะเกิดขึ้นที่ใดเป็นจุดเริ่มต้น และนำเชื้อมาทดลองการดื้อยาโอเซลทามิเวียร์ ดังนั้นการควบคุมดูแล เรายังไม่ประมาท เพราะในช่วงปลายเดือน ส.ค.-ก.ย. เป็นช่วงการระบาดของไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลอยู่แล้วจึงต้องเฝ้าระวังอย่างเข้ม ข้น การให้ผู้ป่วยพักรักษาตัว 7 วันยังถือว่าเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิชาการกำลัง  พิจารณาเรื่องการลดวันอยู่
       
รมช.สาธารณสุข กล่าวอีกว่า การทด   ลองวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้ให้องค์การเภสัชกรรมดำเนินการอยู่ เบื้องต้นพบปัญหาอุปสรรคบ้าง ส่วนการนำไข่จากประเทศเยอรมนีมาทดลองนั้น จะต้องรอดูผลการทดลองก่อน เช่นเดียวกับการทดลองกับไข่ของไทย ที่ต้องรอดูผลการทดลองก่อนเช่นกัน เพราะการใช้ไข่ไทยต้องขอการรับรองจากต่างประเทศด้วยเพื่อให้ได้ผลที่ออกมา ตรงกัน ซึ่งการผลิตวัคซีนจะต้องใช้เวลาสักระยะ
       
เมื่อถามถึงการที่ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาวิชาการและยุทธศาสตร์ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ระบุว่าในเดือน ส.ค. เป็นช่วงขาลงของการแพร่ระบาดของโรคนี้ นายมานิต กล่าวว่า ไม่ใช่ช่วงขาลงเพราะขณะนี้ประเทศไทยยังอยู่ในช่วงฤดูฝน ทำให้มีการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ซึ่งอาจนำไปสู่การระบาดของไข้หวัดใหญ่  สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในระลอก 2 ได้ เพราะเมื่อหมดปลายฝนเข้าสู่ต้นหนาว คนก็ยังเป็นหวัดง่ายอยู่ ดังนั้น ถ้าจะให้อุ่นใจ ต้องเข้าสู่ฤดูร้อนในเดือน มี.ค. 2553 ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นวัคซีนต้านโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ก็มาพอดี
       
ภก.สมชาย ศรีชัยนาค รอง ผอ.องค์การ เภสัชกรรม (อภ.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิดเชื้อ ว่า การคำนวณปริมาณไวรัสที่ฉีดเข้าไปในไข่จากประเทศเยอรมนี ได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยรอบแรกคำนวณได้ 6.63 ล็อก รอบที่ 2 ได้ 6.3 ล็อก เฉลี่ยประมาณ 6.5 ล็อกเท่านั้น เมื่อได้ปริมาณไวรัสน้อยกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ก็ต้องสอบถามไปยังองค์การอนามัยโลก และดร.อีริค ดอง ผู้เชี่ยวชาญจากเยอรมนีว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ในการจะเพิ่มปริมาณไวรัสให้มากขึ้น ซึ่งอาจจะต้องฉีดเชื้อไวรัสเข้าไปในไข่ไก่อีก โดยทำให้ถี่ขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องรอฟังผู้เชี่ยวชาญก่อนคาดว่า 1-2 วันนี้จะได้คำตอบ
       
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยความคืบหน้าของการให้บริการสายด่วนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า กระทรวงสาธารณสุขยังคงเปิดให้บริการความรู้ความเข้าใจประชาชนทั่วประเทศ เกี่ยวกับโรคดังกล่าว ทางหมายเลขโทรศัพท์ 1422 และ 0-2590-3333 ตลอด 24 ชม. โดยไม่มีวันหยุด ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาระหว่างวันที่ 10-16 ส.ค. มีประชาชนโทรฯเข้ามาสอบถามรวมทั้งหมด 6,756 สาย เฉลี่ยวันละ 965 สาย ซึ่งยอดการใช้บริการเพิ่มขึ้นจากช่วงวันที่ 3-9 ส.ค. ถึง 2,176 สาย ที่น่าเป็นห่วงพบว่า มีประชาชน   ส่วนหนึ่งที่โทรฯเข้ามาก่อกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะสายด่วน 1422 ซึ่งเป็นบริการฟรี ผู้โทรฯ ส่วนใหญ่เป็นเด็ก และมีผู้ใหญ่โทรฯในลักษณะแทะโลมเจ้าหน้าที่หญิง เฉลี่ยวันละ 129 สาย
       
ส่วนที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ช่วงสายวันเดียวกัน นพ.มงคล ณ สงขลา ประธานคณะอนุกรรมการสนับสนุนป้องกัน ควบคุม และการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ร่วมกับกระทรวงคมนาคม องค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดโครงการ “รถเมล์ไทยปลอดภัย รวมพลังสู้หวัด 2009” นพ.มงคล กล่าวว่า ในแต่ละวันมีประชาชนใช้บริการรถเมล์ไม่ต่ำกว่า 1.6 ล้านคน ซึ่งเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้จากการสัมผัสราวบันได ราวจับที่นั่ง ที่ยืน กริ่ง โดยเฉพาะรถปรับอากาศจะติดต่อได้ง่ายกว่ารถเมล์ร้อน แต่รถเมล์ร้อนเชื้อโรคก็สามารถอยู่ได้ 2-6 ชม. สามารถติดโรคได้เช่นกัน
       
“แม้สถานการณ์จะเริ่มชะลอตัว คนตายน้อยลง เกรงว่าคนไทยจะเป็นคนขี้ลืม ลืมง่ายโดยเฉพาะอีก 2 เดือนต่อจากนี้ คือ ก.ย.และต.ค.จะเป็นช่วงระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล อาจมีเชื้อไวรัสต่าง ๆ เข้ามา ถ้าไวรัส 2-3 ชนิดมาเจอกันหรือมีการกลายพันธุ์อาจทำให้เกิดการระบาดรุนแรงได้ ดังนั้น 2 เดือนข้างหน้าต้องไม่ประมาทเพราะยังอันตรายอยู่ ดังนั้นจึงต้องมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องให้ประชาชนเกิดความตื่นตัวตลอด เวลา”
       
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียว่า นายยันดรา โยคะ อาดิทามา อธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อกระทรวง    สาธารณสุขอินโดนีเซียแถลงว่า พบผู้ป่วยเสียชีวิตรายที่ 4 ด้วยเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นเด็กชายอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ติดเชื้อไวรัสแล้วมาเสียชีวิตเมื่อหลายวันก่อนเพราะโรคปอดอักเสบ ขณะนี้อินโดนีเซียมีผู้ป่วยติดเชื้อแล้ว 872 ราย หลังพบการติดเชื้อครั้งแรก เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษและนักบินชาวอินโดนีเซีย
       
ขณะที่นายเอ็ด ไรบีสกี นักไวรัสวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ เปิดเผยว่า ปัญหาความยากจน โรคร้าย และระบบสาธารณสุขที่ต้องแบกภาระเกินกำลังนั้น ทำให้ทวีปแอฟริกาเป็นเป้าหมายสำหรับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้อย่างง่ายดาย แม้จะเป็นทวีปสุดท้ายในโลกที่พบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่คร่าชีวิตผู้คน ไปกว่า 1,000 ศพทั่วโลกแล้วก็ตาม แต่จำนวนผู้เสียชีวิตยังน้อยอยู่ มีเพียง 6 ศพในแอฟริกาใต้ 3 ศพในมอริเชียส และอียิปต์อีก 1 ศพ.

ที่มา เดลินิวส์

 


Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV


ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน

 

 

 

 

 



แจ้งลบกระทู้นี้

อ่าน 1184

แสดงความคิดเห็น โดย ตนข่าว IP: Hide ip , วันที่ 19 ส.ค. 52 เวลา 13:31:18
 

 

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 

 
กรุณาอ่าน
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใด ที่ขัดต่อกฎหมายและ ศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ 08-0500-1180 เพื่อให้ผู้ควบคุม ระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
 
 


ปิดโฆษณานี้X

ผ้าพันคอราคาถูก

ปิดโฆษณานี้X

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 


หน้าแรก l หางานเชียงใหม่ | ตลาดออนไลน์ | เว็บบอร์ด | อัตราค่าลงโฆษณา | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี | ติดต่อเรา


เพื่อนบ้านเราทั้งหมด วิธีแลก Link

© cmprice.com since 14 Jan 2005
E-mail: info@cmprice.com
FaceBook : facebook.com/cmprice.fc
TEL. 08-0500-1180
Line id: cmprice









www.cmprice.com ที่นี่มีสิ่งดีๆ รอคุณอยู่
ผู้สนับสนุน แบบพิเศษ

บ้านหนองช้างคืน | เครื่องฟอกอากาศ เชียงใหม่-ลำพูน | ผ้าพันคอราคาถูก | ของชำร่วย | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี