พขร.ส่วนกลางโวยมือดีปิดประแจรางไม่ให้ส่งผู้โดยสาร!

รฟท.-สหภาพฯ วางยากันเละ พขร.ส่วนกลางแจ้งจับสหภาพฯ แฉปิดประแจราง นำขบวนรถมาขวาง รถไฟหวิดประสานงา-ตกราง ด้านกลุ่มสหภาพฯ กรูล้อมโวยลั่น เตรียมแจ้งความกลับทั้ง พขร.-ผู้บริหาร ส่วน นร.นราธิวาสระทม หยุดเรียนแล้วกว่า 1 พันคน เหตุไม่มีรถไฟโดยสารไปเรียน กมธ.ชายแดนฯ จี้ให้บริการก่อนเปิดเทอม “มาร์ค” เร่งผ่ารถไฟ ขีดเส้น 2 อาทิตย์ ร่วมมือกับจีน “โสภณ” แบไต๋เตรียมของบ 33,000 ล้าน ซื้อหัวจักร 7 หัว ส่วนโต๊ะเจรจาสหภาพฯ เหลว “สาวิทย์” อัดคำสั่งคุ้มครองไม่ชอบธรรม ภาพรวมสูญแล้วกว่า 70 ล้านบาท

สถานการณ์การเดินรถไฟในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงหยุดวิ่งติดต่อกันย่างเข้าสู่วันที่ 12 สร้างความทุกข์ระทมให้กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง ล่าสุดยังไม่มีการยืนยันว่ารถไฟขบวนรถท้องถิ่นเส้นทางจากสถานีหาดใหญ่ ปลายทาง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งขาขึ้นและขาล่องที่มีอยู่ 11 ขบวนต่อวัน จะสามารถเปิดให้บริการในขบวนใดบ้าง ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น

* นร.ระทมรถไฟหยุด-อดเรียน
   
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการส่งพนักงานรถจักรทั้งพนักงานขับและช่างเครื่อง 6 ทีม 12 คน ลงมาเตรียมพร้อมอยู่ที่สถานีรถไฟหาดใหญ่แล้ว เพื่อให้สามารถเดินรถได้ทันทีหากขบวนใดพร้อม เพื่อทดแทนพนักงานในพื้นที่ที่ยังคงลาหยุด ซึ่งขณะนี้ได้มีการเตรียมหัวรถจักรบางส่วนที่จะลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไว้แล้ว หากมีคำสั่ง  ให้เดินรถก็สามารถออกทำขบวนได้ทันที 
   
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวจังหวัดนราธิ วาส รายงานว่า จากการตระเวนสอบถามผู้ได้รับผลกระทบจากการหยุดเดินรถไฟครั้งนี้ พบว่ามีนักเรียน รร.ดารุสสาลาม ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนศาสนาเอกชนในพื้นที่ อ.ระแงะ ได้รับผลกระทบมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว นักเรียนกว่า 1,000 คน ต้องหยุดการเรียนหนังสือไปโดยปริยาย เนื่องจากส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ผู้ปกครองไม่สามารถเหมารถยนต์รับ-ส่ง ให้บุตรหลานมาเรียนหนังสือได้ และหากรถไฟขบวนท้องถิ่นในพื้นที่ยังหยุดวิ่งอย่างไม่มีกำหนดต่อไป จะมีนักเรียนอีกนับ 1,000 คน ได้รับความเดือดร้อนเพิ่มเติมอีกทวีคูณ เพราะโรงเรียนต่างๆ จะเริ่มทยอยเปิดการเรียนการสอนทั่วทั้งจังหวัดในวันที่ 2 พ.ย.นี้

นายอาหามัด อาแว ประธานสภานักเรียน รร.ดารุสสาลาม กล่าวว่า นักเรียนส่วนมากจะเดินทางมากับรถไฟที่ให้บริการฟรี เมื่อรถไฟหยุดวิ่งทำให้นักเรียนในโรงเรียนที่มีประมาณ 4,000 คน หยุดเรียนไปแล้วกว่า 1,000 คน ขณะที่ น.ส.นูรลินตา ยา นักเรียน รร.ดารุสสาลาม กล่าวว่า การหยุดเดินรถไฟทำให้ลำบากอย่างยิ่ง เพราะพ่อแม่ต้องตื่นแต่เช้ามาส่งตนให้เรียนหนังสือ ซึ่งเมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา ตนเองก็หยุดเรียนไป

* กมธ.จี้ให้บริการก่อนเปิดเทอม
   
ขณะเดียวกัน นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคมาตุภูมิ นายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะอนุกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย-มาเลเซีย เรียกร้องให้ รฟท.เร่งเจรจาเพื่อเปิดบริการเดินรถไฟในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะเด็กนักเรียนใกล้จะเปิดเทอมในวันที่ 2 พ.ย.นี้
   
ด้านท่าทีของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทยสาขาหาดใหญ่ และพนักงานรถไฟในพื้นที่ยังคงมีท่าทีแข็งกร้าว ประกาศที่จะสู้จนกว่าข้อเรียกร้องในเรื่องของความปลอดภัยการเดินรถไฟโดย เฉพาะความพร้อมของหัวรถจักรในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะได้รับการแก้ไขจากฝ่ายบริหาร พร้อมกับเรียกร้องไปยังพนักงานจากส่วนกลางที่ถูกส่งมาทำหน้าที่ขับรถไฟใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้คำนึงถึงความปลอดภัยเพราะไม่ชำนาญเส้นทางอาจเกิดอันตรายได้ และหากมีการเปิดเดินขบวนรถลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทางสหภาพฯ หาดใหญ่ จะไม่ขัดขวาง แต่ผู้บริหารการรถไฟจะต้องรับผิดชอบหากเกิดอะไรขึ้น
   
นายวิรุฬ สะแกคุ้ม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทยสาขาหาดใหญ่ กล่าวว่า แม้นายกรัฐมนตรีต้องการให้เอาผิดทางวินัยกับพนักงานที่หยุดงานเรื่องนี้ พนักงานทุกคนไม่ได้ทำผิดทางวินัยเพราะทำตามระเบียบข้อตกลงสภาพการจ้างงานทุก ประการ อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้การเจรจายังมีแค่ผู้บริหารรถไฟในระดับท้องถิ่นเท่า นั้นซึ่งไม่มีอำนาจตัดสินใจใด ๆ

* รถไฟท้องถิ่นหวิดประสานงา
   
ขณะเดียวกัน ความพยายามในการเปิดให้บริการเส้นทางสายท้องถิ่นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ล่าสุดเกือบเกิด    อุบัติเหตุรถไฟชนกัน โดยเมื่อเวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานีรถไฟหาดใหญ่ จ.สงขลา ได้นำขบวนรถไฟขบวนที่ 463 พัทลุง-สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นขบวนรถท้องถิ่นที่วิ่งมาสิ้นสุดที่สถานีหาดใหญ่ ได้ออกให้บริการผู้โดยสารด้วยการวิ่งต่อไปยังปลายทางที่สถานีสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยใช้พนักงานขับและช่างเครื่องจากส่วนกลางมาทำการเดินรถ ขณะที่ขบวนฯ เคลื่อนออกจากสถานีหาดใหญ่ได้เพียง 300 เมตร จำเป็น ต้องหยุดรถกะทันหัน เนื่องจากมีขบวนรถไฟลังกาวี ที่วิ่งมาส่งผู้โดยสารในช่วงเช้าจอดอยู่ในรางเดียวกัน จนเกือบทำให้รถทั้งสองขบวนหวิดชนกัน ระยะห่างแค่ 200 เมตร
   
เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มสหภาพฯ หาดใหญ่ เป็นอย่างมาก ต่างกรูกันไปห้อมล้อมหัวรถจักรและให้พนักงานขับหยุดเดินขบวนและลงจากรถทันที โดยสถานการณ์ชุลมุนอยู่กว่า 1 ชั่วโมง ตำรวจรถไฟและกำลังตำรวจจาก สภ.หาด ใหญ่ กว่า 100 นาย ต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์ก่อนที่จะสามารถนำตัวพนักงานขับและช่างเครื่องลง จากรถท่ามกลางเสี่ยงโห่ร้องขับไล่ของกลุ่มสหภาพฯ หาดใหญ่
   
ด้านนายวิรุฬ กล่าวภายหลังว่า เหตุ การณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการทำผิดระเบียบการเดินรถอย่างร้ายแรง เพราะมีการฝ่าสัญญาณไฟแดง ที่สำคัญประแจรางรถไฟไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะทำให้รถไฟขบวนนี้วิ่งออกไปได้ นอกจากจะทำให้รถไฟเกือบชนกันแล้ว  หากรถยังวิ่งต่อไปอีกเพียง 50 เมตร จะตกรางทันทีเพราะประแจอยู่ผิดตำแหน่ง ขณะที่ขบวนรถก็ไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานเพราะระบบเบรกยังไม่สมบูรณ์ และใช้พนักงานขับที่ไม่ชำนาญพื้นที่ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางผู้บริหารจะต้องรับผิดชอบ

* พขร.ส่วนกลางโวยถูกวางยา
   
ต่อมาเวลา 13.00 น. พนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เชิญตัวพนักงานของการรถไฟแห่งประเทศไทยจากส่วนกลาง 13 คน ทั้งพนักงานขับและช่างเครื่องที่ถูกส่งมาขับรถไฟในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาสอบปากคำ โดยพนักงานขับรถและช่างเครื่องขบวนดังกล่าวให้การว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการจงใจพยายามขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงาน ขับรถที่ส่วนกลางส่งมา และตั้งข้อสังเกตว่ามีการจงใจที่จะไม่ให้รถไฟขบวนดังกล่าวออกจากสถานี ทั้งการปิดประแจรางรถไฟให้รถวิ่งไปอีกทาง และนำขบวนรถมาขวางเส้นทางเอาไว้ เนื่องจากก่อนที่จะเปิดเดินรถได้มีการเคลียร์เส้นทางเรียบร้อยแล้ว

* แจ้งจับสหภาพฯ หาดใหญ่
   
นายสาโรจน์ สุขสำราญ พนักงานขับรถไฟขบวนที่ 463 ยืนยันว่า ก่อนนำขบวนรถออกวิ่ง ได้รับการยืนยันความพร้อมการเดินรถ และได้รับทางสะดวก อนุญาตให้เดินรถระหว่างสถานีหาดใหญ่-สถานีนาหม่อม ซึ่งเป็นสถานีแรกที่จะไปถึง และทำการเปิดสัญญาณเดินรถ แต่ปรากฏว่าระหว่างที่รถวิ่งออกไปได้ระยะหนึ่ง สังเกตเห็นโคมประแจ ผิดปกติ ไม่เดินในทางตรงเป็นรูปบิด จึงจำเป็นต้องหยุดเดินรถเพราะอันตราย ซึ่งตนไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะก่อนออกรถได้มีการตรวจสอบเส้นทางเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ ตนได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทน รฟท. แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มสหภาพฯ หาดใหญ่ เพื่อดำเนินคดีในข้อหากระทำการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้รถไฟเสียหาย
   
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแกนนำสหภาพฯ หาดใหญ่ ได้เตรียมรวบรวมหลักฐาน เพื่อแจ้งความเอาผิดกับพนักงานเดินรถขบวนดังกล่าว รวมทั้งผู้บริหาร รฟท. ที่สั่งการให้เดินรถจนเกิดอันตราย

* อนุมัติรฟท.รับเพิ่ม171อัตรา
   
วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า นายโสภณ ซารัมย์ รมว. คมนาคม ได้รายงานในที่ประชุมว่า การเดินรถสายหลักนั้นเป็นปกติ ส่วนในสายท้องถิ่นในพื้นที่ภาคใต้ เริ่มเดินรถเมื่อวันที่ 26 ต.ค. พบปัญหาที่เส้นทาง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ที่มีเหตุวางระเบิดทางรถไฟเท่านั้น และได้มีการตรวจสอบความปลอดภัยของหัวรถจักรทั้งหมด เท่ากับว่าเราได้งดเว้นกรณีเดียวเท่านั้น ทุกอย่างจะเป็นไปตามมาตรฐาน นอกจากนี้ ครม.ยังอนุมัติในหลักการที่จะรับลูกจ้างในส่วนของช่างขึ้นมาเป็นพนักงาน เพื่อความพร้อมในการเดินรถด้วย ส่วนการเจรจากับพนักงานสหภาพฯ รฟท. มีการดำเนินการอยู่ แต่ขออย่าเอาเรื่องบริการประชาชนมาเป็นเงื่อนไข เชื่อว่าน่าจะกลับสู่ภาวะปกติแล้ว
   
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบให้ รฟท.ยกเว้นการปฏิบัติตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2541 โดยอนุมัติให้ รฟท.รับพนักงาน 171 อัตรา ประกอบด้วย ช่างเครื่องฝึกหัด 121 อัตรา และพนักงานเดินรถโยธา 50 อัตรา ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ

* ขอ 33,000 ล.ซื้อหัวจักร
   
ด้านนายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอภิสิทธิ์ได้สั่งการให้นายโสภณ ซารัมย์ รมว. คมนาคม ไปเร่งรัดการพิจารณาโครงการความร่วมมือรถรางและหัวรถจักรของไทย ที่ได้ขอให้จีนเข้ามาสนับสนุน เพราะในการหารือทวิภาคีระหว่างไทยกับจีนที่หัวหินพบว่าจีนได้เร่งรัดเรื่อง นี้มาก จึงต้องการให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2-3 สัปดาห์ เพื่อเสนอให้ครม.เศรษฐกิจพิจารณา ว่าจะขอความร่วมมือในลักษณะใดทั้งเรื่องรางคู่ รางเดี่ยว หรือหัวรถจักร และต้องการแหล่งเงินที่จีนเสนอให้ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือไม่ โดยนายโสภณ ได้ชี้แจงให้ครม.รับทราบว่า จีนได้เสนอที่จะขายหัวรถจักรให้กับไทยในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี)
   
นายโสภณ กล่าวยืนยันว่า ภายใน 2 สัปดาห์นี้จะเสนอรายละเอียดของแผนปฏิรูปการรถไฟแห่งประเทศไทยให้ครม.พิจารณา ได้ ซึ่งรวมถึงแผนการขอความร่วมมือจากจีนที่จะเข้ามาพัฒนาระบบรางและหัวรถจักร ไทย เบื้องต้นคาดว่าจะสั่งซื้อหัวรถจักรเพิ่มเติมอีก 7 หัว มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 33,000 ล้านบาท ในรูปแบบจีทูจี ขณะที่วงเงิน 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่จีนให้การสนับสนุนนั้นเป็นเรื่องของการพัฒนาระบบราง ซึ่งต้องนำไปพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร

* สหภาพฯ ยันไม่ได้ทำผิดก.ม.
   
อีกด้านหนึ่ง ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย นายอิทธิพล ประภาวสิทธิ รองผู้ว่าการรฟท. ได้หารือกับนายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพฯ รฟท. เพื่อหาข้อยุติการหยุดเดินรถในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ใช้เวลาเพียง 1 ชม.เท่านั้น ทั้ง 2 ฝ่ายได้  ยุติการเจรจา เนื่องจากฝ่ายบริหารเห็นว่า สหภาพฯ รฟท. ยังไม่ให้ความร่วมมือในการเปิดเดินรถ ขณะที่นโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม มีจุดยืนที่ชัดเจนว่า สหภาพฯ รฟท.ต้องเปิดเดินรถก่อน จึงจะเจรจาในเงื่อนไขต่าง ๆ กับฝ่ายบริหารและกระทรวงคมนาคมได้
   
นายสาวิทย์ กล่าวว่า สหภาพฯ รฟท. ยืนยันที่จะต้องปรับปรุงหัวรถจักรและ ขบวนรถให้มีความสมบูรณ์ก่อน พนักงานที่เป็นสมาชิกสหภาพฯ จึงจะเริ่มทำงาน เนื่องจากข้อมูลล่าสุด พบว่ามีหัวรถจักรที่อยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ 70 หัวจักร นอกจากนี้ ประเด็นที่นายกฯ ยืนยันจะเอาผิดกลุ่มสหภาพฯ นั้น ตนเห็นว่าสหภาพฯ ไม่ใช่ผู้กระทำผิดกฎหมาย แต่ผู้กระทำความผิดคือ ฝ่ายบริหาร เพราะไม่ซ่อมบำรุงหัวรถจักรให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้

* อัดคำสั่งคุ้มครองไม่เรียกแจง
   
“การดำเนินการของฝ่ายรัฐ ที่นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ยึดหัวรถจักรจากกลุ่มสหภาพฯ หาดใหญ่ ผมมองว่าเป็นการกระทำที่คล้ายกับว่ากลุ่มสหภาพฯ เป็นผู้ก่อการร้าย สร้างความกดดันขึ้นอย่างไม่เป็นธรรม ส่วนประเด็นที่ศาลจังหวัดสงขลา มีคำสั่งคุ้มครองไม่ให้กลุ่มสหภาพฯ ขัดขวางการเดินรถนั้น คำคุ้มครองนี้เกิดขึ้นโดยไม่มีการเรียกกลุ่มสหภาพฯ เข้าชี้แจงแต่อย่างใด ถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง” นายสาวิทย์ กล่าว

* พันธมิตรฯหนุนตะเพิดผู้ว่ารฟท.
   
ที่บ้านพระอาทิตย์ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงภายหลังการหารือของแกนนำว่า แกนนำเห็นด้วยกับการประท้วงของสหภาพฯ รฟท. และการเรียกร้องขับไล่นายยุทธนา ทัพเจริญ ออกจากตำแหน่งผู้ว่า การ รฟท.
   
ขณะที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกน นำพันธมิตรฯ กล่าวถึงอุบัติเหตุรถไฟตกราง ที่สถานีเขาเต่า จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า สาเหตุหลักมาจากความบกพร่องของอุปกรณ์ เพราะรถไฟ เครื่องบิน จะมีระบบรักษาความปลอดภัยอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น หรือกรณีรถไฟปล่อยผู้โดยสารทิ้งที่สถานีละแม จ.ชุมพร พบว่าเป็นคำสั่งของผู้ว่าการ คนนี้ ที่พยายามโยนความผิดให้สหภาพฯ หรือโกหกว่า สหภาพฯ ยึดหัวรถจักรไว้
   
ก่อนหน้านี้ ที่รัฐสภา สมาพันธ์   แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ได้ยื่นหนังสือต่อนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เพื่อให้คณะกรรมาธิการฯ พิจารณาตรวจสอบการเดินรถไฟที่ไม่ปลอดภัย อาจก่อเหตุเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นได้

* จ่อเชือด10แกนนำ-สูญ70ล.
   
ต่อมาเวลา 16.30 น. นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ รฟท. กล่าวถึงกรณีรถไฟขบวนที่ 463 พัทลุง-สุไหงโก-ลก หวุด หวิดที่จะเกิดอุบัติเหตุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนให้กับนักเรียนที่ต้องเดินทางด้วยรถไฟ ไปโรงเรียนกว่า 1,000 คน รฟท.จึงได้ประสานกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จัดรถโดยสารเข้าไปรองรับผู้โดยสารตกค้างตามสถานีรถไฟต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเดินทางต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายให้ รฟท.เป็นอย่างมาก ดังนั้น ฝ่ายบริหารจึงได้พิจารณาลงโทษพนักงานที่มีความประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และเตรียมพิจารณาไล่ออกพนักงานที่มีพฤติกรรมดังกล่าว
   
แหล่งข่าวจาก รฟท. กล่าวว่า พนัก งานที่จะถูกลงโทษ จะเป็นระดับแกนนำของสหภาพฯ ที่มีพฤติกรรมปลุกปั่น บีบบังคับให้พนักงานรายอื่นหยุดงาน ซึ่งเป็นพนักงานทั้งในส่วนกลางและในพื้นที่ภาคใต้ คาดว่ามีทั้งสิ้นประมาณ 10 ราย ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นตั้งแต่หยุดการเดินรถตั้งแต่วันที่ 16-27 ต.ค. เป็นความเสียหายในการจัดขบวนรถสินค้า 14 ล้านบาท ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถโดยสาร 56 ล้านบาท รวมความเสียหาย 70 ล้านบาท.

 

ที่มา เดลินิวส์