• คมชัดลึก :รวบโจ๋วัย 16ปี ฆ่าข่มขืนเด็กนร.สาวม.4 ที่แท้เพื่อนในหมู่บ้านเดียวกัน เผยหลังเกิดเหตุยังทำทีมาดูศพ สารภาพบีบคอเหยื่อสลบก่อนข่มขืน กลัวจำหน้าได้ใช้สายยางรัดคอจนตายคามือ ตำรวจหิ้วฝ่าฝูงชนร่วม 200 ทำแผน ท่ามกลางเสียบสาปแช่ง หวิดถูกประชาทัณฑ์ ข่าวจาก คมชัดลึก

 นายวี รับสารภาพว่า เมื่อค่ำวันที่ 31 มกราคม หลังทำงานกลับจากจ.สุพรรณบุรีมาเยี่ยมยายซึ่งป่วยอยู่ที่บ้าน โดยนั่งรถโดยสารมาที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกำแพงเพชร ก็พบพ่อแม่ของผู้ตายที่กำลังมาส่งพี่ชายของผู้ตาย ซึ่งอยู่ในบ้านหมู่เดียวกัน จึงรู้ว่าที่บ้านมีลูกสาวอยู่เพียงคนเดียว และยังได้พูดคุยกันราว 5 นาที จากนั้นไปซื้อเบียร์มาดื่ม 2 กระป๋อง แล้วกลับเข้าหมู่บ้าน ก่อนกลับบ้านไปมีเพศสัมพันธ์กับแฟนสาว กระทั่งถึงเวลาที่เกิดเหตุ ก็ไปที่บ้านน.ส.เอ โดยย่องเข้าทางหลังบ้าน ขณะพ่อแม่ของน.ส.เอ กลับจากส่งลูกชายแล้วเพลียหลับ เมื่อไปนั่งที่ขอบเตียงน.ส.เอ ตื่นขึ้นมาพอดีจึงใช้มือบีบกดคอ ก่อนข่มขืน 

 ผู้ต้องหากล่าวว่า หลังลงมือเสร็จสังเกตเห็นตรงหัวเตียงมีสายยางที่ใช้รัดสิ่งของสำหรับรถจักรยานยนต์ 1 เส้น โดยเหยื่อยังมีลมหายใจอยู่ เกรงว่าจะจำหน้าได้เพราะเป็นคนบ้านละแวกเดียวกัน จึงใช้สายยางที่อยู่บนหัวเตียงมาพันคอเหยื่อ 1 รอบ แล้วกระตุกปลายสายจนขาดอากาศสิ้นใจอย่างทรมาน กระทั่งรุ่งขึ้นตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุ ก็มาร่วมสังเกตการณ์ด้วย เพื่อแสดงความบริสุทธิ์

 ส่วนสาเหตุที่ลงมือเนื่องจากเพื่อนๆ บอกว่า ผู้ตายเป็นหญิงสาวที่หน้าตาดี จึงเกิดอารมณ์ยับยั้งไม่ได้ อีกทั้งตนได้ไปฉีดอวัยวะเพศให้ใหญ่ขึ้น จึงวางแผนสวมถุงมือไปบ้านเหยื่อแล้วก่อเหตุขึ้น หลังก่อเหตุได้โทรศัพท์ให้พี่ชายที่อยู่จ.สุพรรณบุรีมารับตัวกลับ แต่ตำรวจมาจับกุมได้เสียก่อน

 หลังนายวีถูกควบคุมตัว ตำรวจได้นำไปตรวจร่างกายปรากฏว่า ที่บริเวณด้านหลัง และแขนทั้ง 2 ข้างมีรอยสักและมีเล็บข่วนหลายที่ รวมทั้งที่คอของผู้ต้องหา และหลักฐานขนเพชร จึงทำให้ผู้ต้องหาจนมุมยอมรับสารภาพในที่สุด นอกจากนั้นยังได้เบาะแสว่า ผู้ต้องหายังมีประวัติบุกขึ้นหาสาวแม่ลูกสามกลางวันแสกๆ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2552 มาแล้ว แต่เหยื่อตัวใหญ่กว่าใช้มีดฟันจนบาดเจ็บ แต่ผู้เสียหายไม่ได้เอาเรื่องจึงรอดตัวมาได้

 หลังจากนั้นพล.ต.ท.สุรสีห์ ได้นำผู้ต้องหาเดินทางไปบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีญาติๆ และชาวบ้านไม่ต่ำกว่า 200 คน มาดูการทำแผน โดยตำรวจต้องใช้กำลังเคลียร์พื้นที่กันประชาชนที่ส่งเสียงตะโกนด่าสาปแช่งผู้ต้องหาด้วยอารมณ์โกรธแค้น และกลัวจะประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา หลังจากนั้น ก็ได้นำตัวผู้ต้องหาอ้อมมาทางด้านหลังของบ้านที่เกิดเหตุ เมื่อพ่อแม่ของเหยื่อเห็นผู้ต้องหาก็วิ่งเข้าใส่ เงื้อหมัดเข้าไปจะทำร้าย แต่ตำรวจได้กันออกไปทัน โดยใช้เวลาทำแผนไม่ถึงชั่วโมงก็ยุติลง แล้วรีบนำตัวขึ้นรถฝ่าฝูงชนออกไปได้อย่างปลอดภัย

 พล.ต.ท.สุรสีห์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นภัยของเยาวชน เพราะไม่คิดว่าเด็กอายุเท่านี้จะก่อเหตุรุนแรงถึงขนาดนี้ เริ่มต้นจากปัญหาทางสังคม สิ่งยั่วยุต่างๆ มากมาย ทำให้เด็กอยากรู้อยากเห็น และพ่อแม่ก็ทำมาหากิน ไม่มีเวลาดูแลบุตรหลาน จึงทำให้เด็กออกไปแสวงหาด้วยตนเอง จึงฝากถึงผู้ปกครองให้ช่วยสอดส่องดูแลบุตรหลาน เพื่อช่วยป้องกันลดการเกิดปัญหาทางสังคมร่วมกัน