สุด สยอง!!! หนุ่มแท็กซี่หึงเมียนักร้องสาว ออกไปกับแขกทั้งคืน กลับถึงบ้านเช้า ซื้อเบียร์กินย้อมใจ ก่อนคว้าปืนลูกซองยิงคนรักดับ แล้วระเบิดหัวตัวเองตายตาม...
เมื่อเวลา 11.30 น. 5 ธ.ค. ร.ต.ท.ธีรพงษ์ นาขวา ร้อยเวรสอบสวน สภ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุยิงกันและมีผู้เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 75/9 หมู่บ้านสองฝั่งคลอง ซอย 2 ม.2 ต.หน้าไม้ หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ขาวลิขิต ผกก.ฯ พ.ต.ท.นันทรังสรรค์ สอนเจตน์ รอง ผกก.(สส.)ฯ พ.ต.ท.ประสิทธิ์ สายสอาด สว.สส.ฯ พ.ต.ท.ฉลอง บุญล้อม สวป.ฯ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่วิทยาการ สพฐ.1 แพทย์เวร รพ.ลาดหลุมแก้ว และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ใน ที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านทาวเฮาส์ 2 ชั้น หน้าบ้านพบรถแท็กชี่ ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู ทะเบียน ทม 3945 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ มีนางผ่อง พึ่งจิตร อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นผู้เช่าบ้านหลังดังกล่าว นำตำรวจและแพทย์เข้าไปตรวจสอบ เบื้องต้นบริเวณใกล้ประตูบ้าน พบปลอกกระสุนปืนลูกซองตกอยู่ 1 ปลอก ส่วนภายในบ้านกลางห้อง พบขวดเบียร์ 5 ขวด เปิดดื่มไปแล้ว 3 ขวด พร้อมแก้ว 1 ใบ
จากนั้นเมื่อขึ้นไปตรวจ สอบชั้นบน ซึ่งมีห้องนอนอยู่ 3 ห้องนอน แต่ห้องที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ด้านทิศเหนือ พบว่าประตูห้องปิดล็อคไว้ เจ้าหน้าที่จึงงัดประตูออก จึงพบภาพสยองภายในห้องนอนชั้นบน มีศพผู้ชายซึ่งศีรษะด้านบนหายไปกว่าครึ่ง นอนกอดศพผู้หญิงที่นอนจมกองเลือดอยู่ปลายที่นอน โดยมีทั้งเลือด มันสมอง และเศษกะโหลกกระจายเต็มห้อง ที่ปลายเท้าผู้ตายทั้งคู่ พบอาวุธปืนลูกซองสั้นเบอร์ 12 ตกอยู่ ในรังเพลิงมีปลอกกระสุนคาอยู่ 1 ปลอก นอกจากนี้ยังพบหัวกระสุนอยู่ใกล้ประตูอีก 2 หัว เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการชันสูตรเบื้องต้นพบว่า ศพผู้ชายชื่อนายบุญเลิศ นาคมอญ อายุ 30 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 58/1 ม.4 ต.ห้วยใหญ่ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ สภาพศพศีรษะด้านบนหายไปครึ่งหัว นอนกอดศพหญิงสาวทราบชื่อคือ น.ส.ทิพย์สุคณฑ์ พึ่งจิตร หรือ “พัช” อายุ 24 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 206 ม.8 ต.สำโรง อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี ถูกยิงเข้าที่ท้ายทอย มันสมองกระจาย เจ้าหน้าที่จึงได้มอบศพทั้งคู่ให้มูลนิธิฯนำส่ง สถาบันนิติเวช รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อผ่าชันสูตรให้ละเอียดอีกครั้ง
จาก การสอบสวนนางผ่อง ซึ่งเป็นมารดาของน.ส.ทิพย์สุคณฑ์ ให้การว่าลูกสาวตนซึ่งมีอาชีพเป็นนักร้องอยู่สวนอาหาร “กนกแดง” อยู่ที่ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี และอยู่กินกับนายบุญเลิศ อดีตเคยทำงานบริษัทแห่งหนึ่ง ต่อมาได้ขับรถแท็กซี่ และมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุประมาณ 4-5 เดือน ก่อนเกิดเหตุตามปกตินายบุญเลิศจะขับรถไปรับไปส่งภรรยาทุกวัน แต่เมื่อเวลาตีหนึ่งเศษ (5 ธ.ค.) นายบุญเลิศได้ขับรถไปรับภรรยาที่ร้านอาหาร แต่ไม่พบ จึงกลับมาบอกตนว่า เมียผมไปเที่ยวกับแขกที่ร้าน หลังจากนั้นประมาณตีสามวันเดียวกัน นายบุญเลิศจึงขับรถออกไปตามหาภรรยาอีก จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 7 โมงเช้า ลูกสาวตนได้กลับมาบ้านและขึ้นไปนอน ต่อมานายบุญเลิศได้ขับรถกลับมาเมื่อเวลาประมาณ 9 โมง พร้อมกับซื้อเบียร์มา 5 ขวด ก่อนที่จะชวนตนดื่มเพื่อปรับทุกข์ แต่ตนไม่ดื่ม พร้อมกับบอกว่ามีอะไรก็พูดคุยกันดีๆ อย่าทะเลาะกัน หลังจากนั้นตนจึงออกจากบ้าน และไปนั่งเล่นที่บ้านน้องสาวตนซึ่งอยู่หลังบ้านติดกัน จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง ตนและญาติๆ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัดมาจากที่บ้าน จึงรีบวิ่งมาดู แต่พบว่าประตูห้องถูกล็อคไว้ เมื่อเคาะเรียกก็ไม่มีเสียงตอบ ก่อนที่ญาติจะปีนบันไดขึ้นไปดูก็พบว่าทั้งคู่ตายแล้ว จึงแจ้งให้ตำรวจทราบ
ด้าน พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และสอบพยานแวดล้อมแล้ว สันนิษฐานว่าผู้ชายคงมีความหึงหวงภรรยา ซึ่งเป็นคนหน้าตาดี และที่สำคัญมาทราบว่า หลังร้านอาหารเลิก ภรรยาได้ออกไปกับคนอื่น ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นแขกที่มาเที่ยวในร้านหรือเพื่อนร่วมงาน แต่พอกลับมามาบ้านตอนเช้าทราบว่าภรรยาเพิ่งกลับมา จึงไปซื้อเบียร์มาดื่ม ก่อนตัดสินใจใช้อาวุธปืนจ่อยิงท้ายทอยเมียตัวเอง หลังจากนั้นจึงเดินลงมาข้างล่าง แล้วใช้ไม้ไผ่กระทุ้งปลอกกระสุนปืนออก ก่อนจะใส่กระสุนเข้าไปอีก 1 นัด จากนั้นล็อคห้องแล้วใช้ปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงหัวตัวเองตายตามดังกล่าว ข่าวจาก ไทยรัฐ