เป็นคดีความที่อยู่ในความสนใจและกระทบกระเทือนความรู้สึกของคนไทยอย่างยิ่งสำหรับคดีสะเทือนขวัญกรณีการเสียชีวิตของ ด.ช.โภคิน ดีผิว หรือน้องโตมี่ อายุ 12 ปี เด็กชายผู้เคราะห์ร้ายจากคมกระสุนของนายชาญชัย ประสงค์ศิล หรือ "โจ๊ก
ไผ่เขียว" อายุ 29 ปี และนายนพพล ประสงค์ศิล อายุ 23 ปี หรือ "จิ๊บ
ไผ่เขียว" สองพี่น้อง ที่ลุแก่โทสะก่อเหตุยิงใส่รถยนต์ที่น้องโตมี่นั่งอยู่ ด้วยเหตุผลเพียงแค่ไม่พอใจที่รถของทั้งสองฝ่ายเกิดการปาดหน้ากัน จึงเป็นเหตุให้น้องโตมี่ต้องเสียชีวิตอย่างไม่มีความผิด เกี่ยวกับคดีดังกล่าว แม้ตำรวจจะวิสามัญฆาตกรรมนายชาญชัย มือยิงไปแล้ว แต่นายนพพลยังคงหลบหนีการจับกุมการไล่ล่าของตำรวจอย่างไม่คิดชีวิต ล่าสุดมารดาของจิ๊บ
ไผ่เขียว ออกมาวิงวอนให้ลูกชายเข้ามอบตัว เนื่องจากเกรงว่าจะถูกวิสามัญฯ เหมือนพี่ชาย
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 13 ธันวาคม มารดาของจิ๊บ
ไผ่เขียว กล่าวเปิดใจผ่านทางสื่อมวลชน พร้อมวิงวอนให้ลูกชายเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า หากลูกฟัง หรือดูโทรทัศน์ ขอให้รีบเข้ามามอบตัวแต่โดยดี และอยากให้กลับมาหาแม่ตามสัญญาที่ให้ไว้ เพราะตอนนี้แม่มาหา แต่หาไม่เจอ และถ้าลูกยังฟังวิทยุ หรือดูโทรทัศน์ขอให้ติดต่อกลับมาหาแม่ หรือพ่อ หรือเจี๊ยบก็ได้ ทั้งนี้อยากให้ลูกทำตามสัญญาที่ให้แม่ไว้ว่า จะมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
"ทำไมไม่ทำตามสัญญา แม่มากับเขา แม่เหนื่อย เขาก็เหนื่อย ทำไมไม่ทำตามสัญญาละลูก ถ้ามอบตัวก็จะไม่ตายนะลูก ถ้าเขาเจอตายแน่ อันไหนที่เราไม่ได้ทำเราก็ไม่ต้องไปยอมรับ และถ้าอันไหนเราทำเราก็ยอมรับไปเถอะลูก ลูกผู้ชายกล้าทำก็กล้ารับ ดีกว่าตายนะลูก เมื่อคืนนี้จิ๊บโทรศัพท์มาหาแม่ และบอกกับแม่ว่าจะขอเข้ามอบตัว เพราะไม่อยากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฯ เหมือนกับพี่ชาย โดยอยากให้สื่อมวลชนเป็นสื่อกลางในการเข้ามอบตัวด้วย แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีวี่แววของลูกเลย" มารดาของจิ๊บ
ไผ่เขียว กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้จิ๊บ ไผเขียว เดินทางไปพบญาติที่สวนยางในพื้นที่ จ.ระยอง แต่เพียงลำพัง เพื่อขอหลบหนี โดยญาติได้ให้ความช่วยเหลือ และให้นอนในกระท่อมที่สวนยางกระทั่งถึงเช้า ต่อมาเวลาประมาณ 10.00 น. จิ๊บ
ไผ่เขียว โทรศัพท์ติดต่อมารดา เพื่อขอติดต่อเข้ามอบตัว จากนั้นช่วงเวลา 10.20 น. ญาติจึงนำอาหารเข้าไปให้ในกระท่องกลางสวนยาง แต่ไม่พบตัวแล้ว ซึ่งตำรวจชุดจับกุมได้ลงพื้นที่ภาค 2 จ.ระยอง และ จ.ชลบุรีในทันทีหลังสืบทราบว่าจิ๊บ
ไผ่เขียวหลบหนีไปเพื่อหาทางออกนอกประเทศ
นอกจากนี้ยังมีผู้แจ้งเบาะแสว่า จิ๊บ ไผ่ขียวหลบอยู่ในเขต จ.จันทบุรี รอยต่อ จ.ตราด ขณะนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ประสานไปยังทหาร-ตำรวจตระเวนชายแดน และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ให้ตรวจสอบบุคคลเข้าออกตะเข็บชายแดนแล้ว คาดว่าจิ๊บ
ไผ่เขียวพยายามหลบหนีออกนอกประเทศไปเขมร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัว เชื่อว่าสามารถจับกุมได้ในเร็วๆ นี้
วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการติดตามตัวจิ๊บ
ไผ่เขียว คนร้ายก่อเหตุยิงน้องโตมี่ เสียชีวิตว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ 10) ด้านการสืบสวน พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผบช.สพฐ. พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 รายงานความคืบหน้าให้ทราบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า ชุดจับกุมได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามตัวอย่างใกล้ชิด คาดว่าจะติดตามจับกุมได้ไม่ยาก ส่วนกรณีพ่อแม่ของจิ๊บ
ไผ่เขียว ติดต่อผ่านสื่อมวลชนเพื่อขอเข้ามอบตัวนั้น ยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน แต่หากมีเรื่องเช่นนี้ขอให้ประสานงานเรื่องการเข้ามอบตัว เพื่อจะไม่เป็นอันตรายต่อทุกฝ่าย และพร้อมจะให้ความเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า คนร้ายมีอาวุธร้ายแรงและพร้อมที่จะต่อสู้หากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า หากชุดจับกุมพบตัวต้องจับกุมตามหน้าที่ และหากคนร้ายใช้ความรุนแรงตำรวจต้องระงับเหตุ แต่คงขึ้นอยู่กับคนร้าย หากยินยอมให้จับกุมแบบละมุนละม่อมคงไม่มีปัญหา แต่หากมีการใช้อาวุธร้ายแรงต้องดำเนินการตามหน้าที่เพื่อป้องกันตัว
"ผมได้สั่งให้ชุดสืบสวนดำเนินการสืบประวัติคนร้าย และผู้ร่วมขบวนการ เนื่องจากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ แต่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายไหนนั้นยังบอกไม่ได้ และคงต้องใช้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเข้ามาตรวจสอบเงินทั้งหมด ที่คาดว่าได้จากการค้ายา เพื่อดำเนินการยึดทรัพย์ ทั้งนี้เชื่อว่ามีคนอื่นร่วมขบวนการอีก ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวน ขบวนการนี้เป็นเครือข่ายใหญ่ ต้องดำเนินการ ถ้าปล่อยไว้จะเป็นอันตรายต่อประชาชน" ผบ.ตร.กล่าว
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 15.00 น .พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เรียกประชุมนายตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง จากนั้น พล.ต.ต.อนุรักษ์เปิดเผยถึงกรณีการเข้าจับกุมนายโจ๊กและนายจิ๊ปที่สมายแมนชั่นว่า เป็นการเข้าไปติดตามจับกุมตามหมายจับเก่าที่นายโจ๊กมีคดีพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน และยังมีคดียิงอาวุธปืนในที่สาธารณะเมื่อวันลอยกระทง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บปลอกกระสุนปืนมาตรวจสอบกับกระสุนที่เกิดเหตุยิงน้องโตมี่ ซึ่งยังไม่ได้ออกหมายจับคดีของน้องโตมี่ ทั้งนี้ เนื่องจากเดิมต้องการที่จะเข้าไปจับกุมเพื่อมาสอบสวน จากนั้นเมื่อได้หลักฐานแล้วก็จะทำการออกหมายจับ แต่นายโจ๊กมาต่อสู้กับตำรวจก่อน ส่วนเรื่องการขอมอบตัวนั้นยังไม่ได้รับการติดต่อ มีแต่ทราบจากสื่อว่าจะเข้ามอบตัวโดยผ่านสถานีโทรทัศน์
ด้าน พ.ต.อ.นฤนาท พุทไธสง ผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ยังไม่เชื่อว่านายจิ๊ปจะเข้ามอบตัว แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำหน้าที่ติดตามนายจิ๊ป ไม่ร้องเพลงรออยู่แล้ว ขณะนี้ยังคงกระจายกำลังออกไปติดตามตัวทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัด ยืนยันว่า จะไม่รอให้มอบตัวอยู่แล้ว ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้กำชับให้ปฏิบัติตามความเหมาะสมกับเหตุการณ์ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่าเมื่อแม่นายจิ๊ปมาอ้อนวอนให้ลูกมอบตัว นายจิ๊ปควรที่จะเห็นแก่แม่
ข่าวจาก คมชัดลึก
