หน้าแรก | ลงโฆษณาฟรี l หางาน l คอมพิวเตอร์ l เว็บบอร์ด | ตลาดออนไลน์ | อัตราค่าลงโฆษณา
www.cmprice.com เว็บไซต์ของฅนเชียงใหม่ เครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!

หน้าแรก » เว็บบอร์ด
ข่าวทั่วไป
เว็บบอร์ด » ข่าวทั่วไป
รายละเอียดของห้อง : ข่าวบันเทิง ข่าวกีฬา ข่าวน่าสนใจทั่วไป
กระทู้ที่ตอบกลับล่าสุด | สร้างกระทู้ใหม่ | ดูกระทู้ทั้งหมด | ค้นหากระทู้ :
สรยุทธ สุทัศนะจินดา : บุคคลผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี 2553 ทางด้าน "สื่อสารมวลชน"

แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV
สรยุทธ สุทัศนะจินดา : บุคคลผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี 2553 ทางด้าน "สื่อสารมวลชน"
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 25 ธ.ค. 53 เวลา 10:23:06 IP: Hide ip    


กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน


 

© เนื้อหาข่าว/กระทู้

 

หมายเหตุ นับตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม ไปจนถึงวันที่ 1 มกราคมปีหน้า เว็บไซต์มติชนออนไลน์จะจัดทำรายงานพิเศษ "10 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี 2553" โดยผู้ที่มีรายชื่ออยู่ในรายงานชิ้นนี้ จะประกอบไปด้วยบุคคลจากแวดวงวัฒนธรรม, สื่อสารมวลชน, กีฬา, บันเทิง, ธุรกิจ, ต่างประเทศ, วิชาการ, สังคม และ การเมือง (ทั้งในเชิงการเมืองภาคประชาชนและสถาบันการเมือง) รายงานบางชิ้นของเราอาจมีลักษณะ "ทีเล่น" ขณะที่บางชิ้นอาจมีลักษณะ "ทีจริง" อย่างไรก็ตาม คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าบุคคลทั้ง 10 รายเหล่านี้ ล้วนมีอิทธิพลอย่างสูงต่อสังคมไทยไม่ทางใดก็ทางหนึ่งทั้งสิ้น ในรอบหนึ่งขวบปีที่ผ่านมา

 

----------

 

ปลายปี 2553 "ลาร์รี่ คิง" พิธีกรชื่อดัง วัย 77 ปี อำลารายการทอล์กโชว์ "ลาร์รี่ คิง ไลฟ์" ของสถานีโทรทัศน์ CNN   หลังจากเขาสัมภาษณ์ผู้คนมากกว่า 40,000 คนตลอดระยะเวลายาวนานถึง 25 ปี     คนในแวดวงสื่อสารมวลชน ยกย่องว่า เขาคือผู้เปลี่ยนแปลงรายการทอล์คโชว์ไปตลอดกาล

   

เพราะบทสนทนาของ ลาร์รี่ คิง อัดแน่นด้วยสาระกึ่งหนัก กึ่งสนุกสนาน ครอบคลุมตั้งแต่ประเด็นการเมืองลึกๆ ไปถึงโชว์ต่างๆ เรื่องราวข่าวร้อน และรายการซุบซิบ
       

แต่ที่ประเทศไทย  ปี 2553      สรยุทธ สุทัศนะจินดา วัย 44 ปี  คือ นักเล่าข่าว  (News Talk) ที่มีชื่อเสียงที่สุดในวงการ จากรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ คุยคุ้ยข่าว และ ถึงลูกถึงคน  กล่าวกันว่า ชั่วโมงนี้ ไม่มี พิธีกรนักเล่าข่าวคนใดในวงการที่ทรงอิทธิพลเท่า "เฮียสอ"

     

จุดเด่นของ"สรยุทธ" ที่ไม่มีใครทาบติดคือ ลีลาแบบดุ เผ็ด เด็ด มัน   แต่นักวารสารศาสตร์ ยกให้เขาเป็น "สื่อดราม่า" ตัวพ่อ  
      
"ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์"  อาจารย์วารสารศาสตร์ ม.หอการค้า   อธิบาย
ปรากฏการณ์นักข่าว "ดราม่า"   หรือ Emo-Journalism  (Emotion Journalism)  ว่าหมายถึง วารสารศาสตร์ที่ขับเน้นแต่อารมณ์ ความรู้สึกของผู้เสพข่าวสารเป็นหลัก
    
บทบาทของนักข่าวในแนวของ Emo-Journalism ผิดแผกแตกต่างจากนักข่าวในแบบเดิมที่ได้รับการสั่งสอน บ่มเพาะให้นำเสนอข่าวด้วยความเป็นกลาง เที่ยงตรง เป็นธรรม พยายามดึงตัวเองออกจากเรื่องราวข่าวสารที่กำลังนำเสนอ

 
ที่สำคัญคือ นักข่าวรวมทั้งผู้ประกาศข่าวต้องไม่แสดงอารมณ์รัก ชอบ เกลียด โกรธ ผ่านออกมาทางการรายงานข่าว

  

แต่นักข่าว หรือผู้รายงานข่าวในแนว Emo-Journalism ไม่เพียงแต่แสดงอารมณ์ความรู้สึกผ่านการรายงานข่าวเท่านั้น หากแต่ยังกระโดดเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในตัวละครข่าว

     

พูดง่ายๆว่า ข่าวกลายเป็นเรื่อง "ดราม่า" มากๆ โดยมีนักข่าวเป็นตัวละครเอกคนหนึ่งในข่าว

      

ปี 2553    Emo-Journalism   ถูกปรุงรสลงตัวที่สุด ในตัว เจ้าพ่อนักเล่าข่าวที่ชื่อ "สรยุทธ"

       

ถ้านึกภาพไม่ออกขอให้ย้อนไปดูวีรกรรมของเขาในช่วงวิกฤตน้ำท่วมทั่วไทย   ชาวบ้านตาดำๆ  ลอยคออยู่ในน้ำ บ้านเรือนจมหาย  หมดเนื้อหมดตัว  แล้วจู่ๆ  เฮียสอ ตัวเป็นๆ ก็ลุยน้ำออกมา  ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับชาวบ้านในหลายพื้นๆที่จากภาคอีสานถึงหาดใหญ่ 
     
ภาพที่ชาวบ้านร้องไห้ กอดคอ "สรยุทธ" เป็นภาพที่ถูกนำไปเปรียบเทียบกับนายกรัฐมนตรี "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ที่ออกไปเยี่ยมเยือนชาวบ้านที่กำลังจมน้ำ  แต่นายกฯอยู่บนรถบรรทุกทหารจีเอ็มซี    พร้อมบริวารมากมาย หรือ ภาพผู้นำตัวแห้งบนเรือที่ถูกลากโดยข้าราชการที่เปียกน้ำ  

     

"ผมว่ายน้ำไม่เป็น แต่ผมอยากมาช่วยเหลือพี่น้อง"  คำพูดเพียงแค่นี้ของ"สรยุทธ"  ก็ได้ใจคนทั้งประเทศ 

     

ขณะที่น้ำท่วมใหญ่ที่หาดใหญ่   ชั่วโมงแรก ๆ ไม่มีใครรู้นายกรัฐมนตรี อยู่ที่ไหน  แต่ในจอทีวีช่อง 3  "สรยุทธ" เข้าไปถึงพื้นที่ที่วิกฤตที่สุด พร้อมความช่วยเหลือ หญิงชาวบ้านที่เดือดร้อนสาหัส  กอดเฮียสอ ...ร้องไห้โฮ !!!   นี่มันยิ่งกว่า ดราม่า เสียอีก

     

บนความหายนะของชาวบ้าน  ใครจะเชื่อว่า สรยุทธ และช่อง 3 ระดมความช่วยเหลือเพื่อเยียวยาความเสียหายจากน้ำท่วม ได้อย่างรวดเร็วและทันเวลา   ไม่ว่า "สรยุทธ" ขออะไร ภาคธุรกิจก็ตอบสนองให้ในทันทีในรายการเล่าข่าว  ขณะที่ความช่วยเหลือจากภาครัฐ เป็นไปอย่างเชื่องช้า ตามระบบราชการ

    

ในบทบาทของฮีโร่ "สรยุทธ" สอบได้คะแนนเต็ม แต่ในบทบาท "แมลงวัน" ที่ตอมกลิ่นฉาวในวงการบันเทิง   "สรยุทธ" ก็เล่นกับข่าว "ฟิล์มและแอนนี่" ได้อย่างถึงพริกถึงขิง กล่าวกันว่า ในช่วงที่สรยุทธ์ เอา"แอนนี่" มาแฉ ฟิล์ม กลางจอช่อง 3   วันนั้น ถนนกลางกรุงเทพว่าง ไม่มีรถวิ่ง  ราวกับวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์

     

"ฟิล์มกับแอนนี่" ในการกำกับของเฮียสอ กระชากเรตติ้งของช่อง 3 ที่ดีอยู่แล้ว ให้พุ่งกระฉูด จนทีวีช่องอื่นๆ ง่วงเหงาหาวนอน 

      

แต่เมื่อ กระแสสังคมตีกลับ วิจารณ์สื่อที่ไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของดารามากเกินไป   "สรยุทธ" กลับตัวได้เร็วกว่าใครเพื่อน 

         

นี่คือความเป็นสุดยอดของ "นักเล่าข่าว" ที่หาตัวจับได้ยากยิ่ง เพราะเขารู้ว่า เมื่อใด ควรรุก เมื่อใด ควรถอยและหยุด

          

และในวันที่ "คนรักบอล" กำลังเซ็งเป็ดกับ "ทีมฟุตบอลไทย" ที่ฟอร์มตก จนต้องลุกขึ้นมา ประท้วงขับไล่ "วรวีร์ มะกูดี" ให้ ลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ  จุดรวมตัวที่ดีที่สุดคือ ช่อง 3  และหนังสือขับไล่นายกสมาคมฯ ก็ถูกยื่นใส่มือ "สรยุทธ"   

       

เหตุก็เพราะในสายตาชาวบ้าน "สรยุทธ"เป็นมากกว่าสื่อ   เพราะหมอนี่ (มัน) พึ่งได้ทุกเรื่อง !

      

"สรยุทธ" เคยเผยเทคนิคการสร้างความใกล้ชิดกับคนดู ว่า  "ต้องมี Contact อะไรบางอย่าง ต้องสื่อสารกับคนดูเหมือนเขานั่งอยู่กับเรา  สมัยก่อนบางวันผมทำรายการแล้วรู้สึกไม่สนุก เพราะรู้สึกว่า Contact เขาไม่ถึง ถ้าวันไหนสนุก ก็ Contact ถึง"
     

หลักในการ Contact ให้ถึงผู้ชมของ สรยุทธ คือ
   

1.  มีพื้นฐานข่าว มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งต้องใช้เวลา ต้องสร้าง และมันไม่มีทางลัด ทำให้การเล่าข่าวมาจากความเข้าใจ เนื้อหาอยู่ในหัว
  

2.  มีความเป็นมนุษย์ พิธีกรข่าวไม่ใช่ผู้วิเศษ ผิดพลาดได้ เก่งและไม่รู้ได้ แต่ให้เป็นธรรมชาติ ไม่โอเวอร์ แต่ก็ต้องไม่จืด
    

เทคนิคของ "สรยุทธ" สอดคล้องกับผลสำรวจของ AC Nielsen Media Research  ที่ว่า   เหตุผลหลักๆ ในการเลือกรับชมข่าวคือ "พิธีกร" ส่วนปัจจัยด้านความรวดเร็ว การเกาะติดทันเหตุการณ์นั้น รองลงมา ขณะที่คุณภาพของข่าวด้านความน่าเชื่อถือ การวิเคราะห์ข่าวนั้นเป็นปัจจัยลำดับท้ายๆ 
     
สำหรับสังคมไทยแล้ว "สรยุทธ" ยังอยู่ได้อีกนาน บางทีอาจยาวนานกว่า "ลาร์รี่ คิง" เพราะคนไทยส่วนใหญ่ เสพข่าวผ่านโทรทัศน์ มากที่สุด
    

หากพิจารณาผ่าน "เม็ดเงิน" ผ่านสื่อกระแสหลัก ในช่วงมกราคม - พฤศจิกายน 2553  ที่สำรวจโดย  NIELSEN  พบว่า เม็ดเงินโฆษณาทั้งตลาด 9 หมื่นกว่าล้าน  เป็นส่วนแบ่งของทีวี กว่า 55,435 ล้านบาทหรือ คิดเป็น 60.43 %  รองลงมาคือ หนังสือพิมพ์ 13,522 ล้านบาท   อันดับสามคือ วิทยุ 5,559 ล้านบาท ส่วนสื่อใหม่อย่างอินเทอร์เนต ได้ส่วนแบ่งแค่ 264 ล้านคิดเป็น 0.29  %
      

กล่าวได้ว่า "เฮียสอ" คือ ยอดคลื่นของสื่อทีวีที่ทรงอิทธิพลและมั่งคั่งที่สุดแห่งปี 2553
      

ใครหลายคน พูดทีเล่นทีจริงว่า ถ้าพรรคเพื่อไทย ได้หัวหน้าพรรคชื่อ สรยุทธ สุทัศนะจินดา  อาจกลับมาเป็นรัฐบาล อีกครั้ง !!!

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน

 


Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV


ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน

 

 

 

 

 



แจ้งลบกระทู้นี้

อ่าน 1593

แสดงความคิดเห็น โดย กรรมกรข่าว IP: Hide ip , วันที่ 25 ธ.ค. 53 เวลา 10:23:06
 

 

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 

 
กรุณาอ่าน
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใด ที่ขัดต่อกฎหมายและ ศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ 08-0500-1180 เพื่อให้ผู้ควบคุม ระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
 
 


ปิดโฆษณานี้X

ผ้าพันคอราคาถูก

ปิดโฆษณานี้X

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 


หน้าแรก l หางานเชียงใหม่ | ตลาดออนไลน์ | เว็บบอร์ด | อัตราค่าลงโฆษณา | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี | ติดต่อเรา


เพื่อนบ้านเราทั้งหมด วิธีแลก Link

© cmprice.com since 14 Jan 2005
E-mail: info@cmprice.com
FaceBook : facebook.com/cmprice.fc
TEL. 08-0500-1180
Line id: cmprice









www.cmprice.com ที่นี่มีสิ่งดีๆ รอคุณอยู่
ผู้สนับสนุน แบบพิเศษ

บ้านหนองช้างคืน | เครื่องฟอกอากาศ เชียงใหม่-ลำพูน | ผ้าพันคอราคาถูก | ของชำร่วย | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี