กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
นำร่องใน"กทม." พณ.ยันถูกลงแน่ 10-20ส.ต./ฟอง แม่ค้ารุมสวดยับ ไม่รู้คิดได้ยังไง
บ่นอุบ - แม่ค้าไข่ไก่ตลาดสดประชานิเวศน์ บ่นอุบนโยบายขายไข่ชั่งกิโลของนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่จะเริ่ม 1 ก.พ.นี้ ส่วนใหญ่เห็นว่ายุ่งยาก มากกว่าการขายตามขนาดแบบเก่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค.
|
ไข่มาร์คชั่งกิโลเริ่มขาย 1 ก.พ.นี้ หลังพาณิชย์ถกทุกฝ่ายจนได้ข้อยุตินำร่องจากตลาดพันธมิตรกรมการค้าภายใน 30 แห่งในกทม. ฟุ้งช่วยประหยัดได้ฟองละ 10-20 สตางค์ มาร์คแจงไม่ได้บังคับขายทั้งหมด แค่บางพื้นที่เป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค ลั่นถูกกว่าแน่ถ้าไม่ถูกกว่าทำไปก็ไม่มีประโยชน์
เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่กระทรวงพาณิชย์ นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ชมรมผู้ค้าไข่ไก่ สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ ตลาดสดที่เป็นพันธมิตรกับกรมการค้าภายใน เกี่ยวกับแนวทางการขายไข่เป็นกิโลกรัม เพื่อลดค่าครองชีพให้แก่ผู้บริโภค ตามโครงการประชาวิวัฒน์ของรัฐบาล ว่า ทุกฝ่ายเห็นชอบร่วมกันที่จะเริ่มทดลองขายไข่ไก่เป็นกิโลกรัมตั้งแต่ต้นเดือนก.พ.เป็นต้นไป โดยจะนำร่องเฉพาะตลาดในกทม.ก่อน รวม 30 แห่ง ทั้งนี้ในส่วนของ ตลาดสดยิ่งเจริญ ตลาดสดเสรี ตลาดสดรังสิต ตลาดสดมีนบุรี นั้นจะเริ่มขายไข่ไก่ชั่งกิโลตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. เป็นต้นไป
สำหรับราคาขายปลีกไข่ไก่คละเบื้องต้นจะกำหนดโดยใช้เกณฑ์ให้ส่วนแบ่งกำไรแก่ผู้ค้าปลีกประมาณ 15% หรือ 5-8 บาท/กิโลกรัม หรือกำไรฟองละ 30 สตางค์ ทั้งนี้ปัจจุบันราคาขายไข่ไก่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่กิโลกรัมละ 45 บาท ดังนั้น หากคิดเป็นราคาจำหน่ายปลีกจะอยู่ที่กิโลกรัมละประมาณ 50-53 บาท
"จากการศึกษาพบว่าการซื้อไข่ไก่เป็นกิโล กรัมจะทำให้ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายลงฟองละ 10-20 สตางค์ นอกจากนั้นหากหากเทียบน้ำหนัก 1 กิโลกรัมต่อราคา จะเห็นว่าไข่เป็นโปรตีนที่ราคาถูกมาก ถูกกว่าหมูที่ราคากิโลกรัมละ 100-120 บาท ไก่เนื้อกิโลกรัมละ 60 บาท ทั้งนี้ เชื่อว่าการขายไข่ไก่เป็นกิโลกรัมจะส่งเสริมให้คนบริโภคไข่เพิ่มขึ้น แต่ขณะนี้ยอมรับว่ายังมีปัญหาเรื่องศักยภาพในการขนส่งของเจ้าของฟาร์มไข่ และผู้ขายรายย่อยที่ไม่สามารถนำรถไปซื้อมาขายโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางได้ โดยจะทดลองจำหน่าย 3 เดือน จากนั้นจะประเมินอีกครั้งว่ามีข้อดีข้อเสียหรือต้องปรับปรุงส่วนใดบ้าง" นางวัชรีกล่าว
นางวัชรีกล่าวด้วยว่า หากการขายไข่ไก่แบบกิโลกรัมประสบความสำเร็จ ในอนาคตอาจจะต้องออกมาตรการดูแลราคา ด้วยการประกาศราคาแนะนำไข่ไก่เป็นกิโลกรัมต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องออกมาตรการกำกับดูแล แม้ว่าจะเสนอให้เป็นสินค้าในบัญชีควบคุมแล้ว เนื่องจากการผลิตและการค้าไข่ไก่ยังอยู่ในภาวะปกติ ยังไม่เกิดปัญหาขึ้น
นางวัชรีกล่าวว่า การขายไข่เป็นกิโลกรัมเป็นทางเลือกที่เพิ่มขึ้น โดยกรมไม่ได้บังคับว่าทุกร้านจะต้องขายไข่แบบชั่งกิโลกรัม ส่วนกรณีที่เกรงว่าผู้ซื้อจะเสียเปรียบนั้นไม่น่าเกิดขึ้น เพราะการขายไข่คละเป็นกิโลกรัมแม่ค้าจะเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อเลือกได้ หากใครเลือกเฉพาะใบใหญ่ก็จะได้จำนวนฟองน้อยลง หากเลือกเฉพาะฟองเล็กจะได้จำนวนฟองเพิ่มขึ้น ส่วนกรณีที่เกรงว่าจะทำให้ผู้ค้าเกิดปัญหา เนื่องจากน้ำหนักไข่ไก่จะลดลงตามระยะเวลาที่เก็บสต๊อกอาจทำให้คนขายขาดทุนนั้น จากข้อเท็จริงพบว่ารอบการขายไข่ไก่ จะหมุนทุกๆ 1-2 สัปดาห์ ดังนั้นจะไม่มีไข่สะสมในสต๊อกของผู้ขายจนทำให้ไข่น้ำหนักลดลงแน่นอน
นายมาโนช ชูทับทิม นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ กล่าวว่า สนับสนุนแนวคิดนี้เนื่องจากการซื้อขายไข่เป็นกิโลจะสร้างความเป็นธรรมซึ่งสุดท้ายผู้บริโภคจะได้ประโยชน์ แน่นอนเพราะผู้บริโภคจะไม่ถูกโกงหากเบอร์ไข่ที่ออกมาต่างกันไม่มาก และผู้เลี้ยงเองก็ได้รับความเป็นธรรมเพราะในฟาร์มปกติจะมีทั้งไข่ขนาดเล็กและขนาดใหญ่คละกันเป็นกิโลอยู่แล้ว และปัจจุบันมีฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ขนาดเล็กกระจายอยู่ทั่วประเทศประมาณ 20,000 ราย ที่เลี้ยงแม่ไก่ในระดับ 500-1,000 ตัว ส่วนรายใหญ่มีอยู่เกือบ 1,000 ราย สำหรับราคาไข่ไก่คละขนาดหน้าฟาร์มราคาอยู่ที่ ฟองละ 2.80 บาท ต่อฟอง ซึ่งราคาปรับขึ้นมา 20 สตางค์ ตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากผลผลิตไข่ไก่ ลดลงไปในช่วงนี้ ประมาณ 4 -5 ล้านฟองต่อวัน จากที่เคยผลิตได้ วันละ 27 ล้านฟองต่อวัน เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น
นายสุรินทร์ ชินวงศ์พรม ประธานชมรมผู้ค้าไข่กทม.และภูมิภาค ซึ่งมีสมาชิก 50 รายทั่วประเทศ กล่าวว่า ทางผู้ค้าซึ่งทำหน้าที่คัดแยกขนาด และกระจายสินค้าไปตามตลาดต่างๆ ทั่วประเทศขณะนี้ ยินดีที่จะร่วมมือในการดำเนินการ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าการปรับพฤติกรรมใหม่โดยขายเป็นกิโลจะถูกกว่าการขายแบบคัดขนาดจริงหรือไม่ เพราะอาจจะมีเปอร์เซ็นต์เสียหายจากไข่แตกที่เป็นต้นทุนด้วย
"หากพ่อค้าแม่ค้าไม่ได้กำไร เขาอาจจะไม่อยากขาย เพราะแม้จะลดต้นทุนจากกระบวนการคัดแยก แต่อาจจะมีต้นทุนส่วนอื่นเพิ่มขึ้นมา ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าต้นทุนจะลดลงได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งคงต้องใช้เวลาในการศึกษาพอสมควร การตัดสินใจคงต้องอยู่ที่ผู้บริโภคว่าจะได้สินค้าราคาถูกลงจริงหรือไม่"
นางวารินทร์ สีสุวรรณ เจ้าของร้านอาหาร Blue sky กล่าวว่า ตนซื้อไข่ไก่เบอร์ 2 ครั้งละ 5 แผงจำนวน 150 ฟอง (1 แผงเท่ากับ 30 ฟอง) ในราคาแผงละ 85-95 บาท เฉลี่ย 2 วันถึงจะซื้อ สำหรับกรณีที่ภาครัฐจะมีนโยบายขายไก่ไข่เป็นกิโลกรัมนั้น ตนไม่แน่ใจว่านโยบายดังกล่าวที่ออกมา จะส่งผลให้การขายไข่ไก่แบบกิโลกรัมเป็นทางเลือกที่ดีให้กับประชาชนจะมีราคาแพงหรือราคาที่ถูกกว่า แบบการเลือกซื้อเป็นฟอง ในฐานะผู้บริโภคก็ต้องเลือกไข่ที่มีขนาดใหญ่ การขายไข่ไก่เป็นกิโลกรัม มองว่าผู้ที่จะได้รับประโยชน์จะเป็นกลุ่มผู้เลี้ยงไก่มากกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์มีการคาดการณ์ว่าปีนี้ไทยจะมีผลผลิตไข่ไก่จำนวนรวมทั้งสิ้น 10,010 ล้านฟอง ปริมาณเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.60% และจะนำไปบริโภคในภาคครัวเรือนประมาณ 3,964 ล้านฟอง
เมื่อเวลา 16.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิ สิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกระทรวงพาณิชย์เห็นชอบให้ขายไข่ไก่ด้วยวิธีชั่งกิโล ว่า ที่คุยกันในกรอบของแผนการปฏิรูป เป็นเรื่องการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค ซึ่งการดำเนินการเรื่องนี้คงต้องให้กระทรวงพาณิชย์เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาพูดคุย
"ผมเข้าใจว่าเป็นการทำได้ในบางพื้นที่ก่อน คงไม่ได้หมายความว่าทำเป็นการทั่วไปทั้งหมด" นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่าประชาชนไม่เข้าใจว่าการขายไข่เป็นกิโลหรือเป็นฟองจะราคาถูกกว่ากัน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ที่ทดลองนำร่องที่มีนบุรีกับที่รังสิต ชั่งกิโลราคาถูกกว่า ถ้าไม่ถูกกว่าก็คงไม่มี ประ โยชน์อะไร ขณะนี้ตามแนวทางจะต้องเข้มงวดกวดขันกันมากขึ้น ไม่ให้เอารัดเอาเปรียบ หรือขึ้นราคาโดยไม่สมเหตุสมผล เมื่อกระทรวงพาณิชย์ประกาศแล้วก็มีหน้าที่ติดตามกำกับดูแล ส่วนที่ปรับราคาขึ้นก็กำลังตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวสอบถามความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าวจากผู้ค้าไข่ไก่ และผู้บริโภคในตลาดประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เพราะคิดว่าทำให้เกิดความยุ่งยาก และไม่เชื่อว่า จะช่วยให้ผู้บริโภคซื้อไข่ได้ในราคาที่ถูกลง
เจ้าของร้านไข่ไก่เจ๊สมร กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบข่าว แต่ถ้ารัฐบาลกำหนดให้ขายไข่ไก่เป็นกิโลกกรัมจริงๆ พ่อค้าแม่ค้าคงจะลำบาก เพราะต้องเสียเวลาหยิบไข่มาชั่ง นอกจากนั้นถ้าชั่งแล้วน้ำหนักขาดหรือเกินก็จะเป็นปัญหากับลูกค้าอีก หรือถ้าให้ลูกค้าเลือกไข่เองทั้งหมด ก็จะเลือกแต่ลูกใหญ่ๆ ที่เหลือลูกเล็กๆ ก็ไม่รู้ว่าจะขายให้ใคร คิดว่าขายแบบคัดเกรดตามเดิมดีกว่า
นายธนกฤต วงส์ปกสกกุล พ่อค้าไข่ไก่อีกรายหนึ่ง กล่าวว่า ไม่รู้ว่ารัฐบาลคิดนโยบายนี้ได้อย่างไร จะให้ชั่งไข่ไก่ขายเป็นกิโลกรัมคงทำไม่ได้ เพราะคนจะเลือกแต่ไข่ฟองใหญ่ๆ ที่รัฐบาลอ้างว่า เพื่อเป็นการลดต้นทุน ไม่ต้องจ้างคนมาคัดขนาดไข่ไก่ เดี๋ยวนี้เขาใช้เครื่องจักรมาคัดแยกกันหมดแล้ว รัฐมนตรีไปอยู่ที่ไหน ถึงได้ไม่รู้เรื่องนี้ ตนยืนยันว่าจะขายด้วยวิธีเดิม คนเรามีต้นทุน คุ้นชินกับวิธีการอย่างเก่า จะให้เปลี่ยนไปเลยคงไม่ได้
นางรุ่งนภา อรุณวุฒิวงศ์ แม่ค้าไข่ไก่ตลาดเดียวกัน กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว เพราะไข่ไก่เมื่อซื้อมาใหม่ๆ น้ำหนักจะมาก แต่ถ้าผ่านไป 2-3 วัน น้ำหนักไข่ไก่จะลดลง ถ้านำมาขายแบบชั่งกิโล จะทำให้พ่อค้าแม่ค้าขาดทุน เพราะซื้อมาแพงกว่าราคาขาย นอกจากนี้ไข่แต่ ละฟองมีน้ำหนักไม่เท่ากัน หากชั่งแล้วไม่พอดีจะทำอย่างไร ต้องตอกไข่ทิ้งหรือไม่ คนที่ออกนโยบายมาเป็นนักวิชาการ พูดถึงแต่การลดต้นทุนในทางเศรษฐศาสตร์ แต่วิชาการกับการปฏิบัติมันเอามาใช้กันไม่ได้ ถ้าจะเอาจริงเรื่องนี้ ขอให้มาสาธิตให้ดูว่าจะทำกันอย่างไร พ่อค้าแม่ค้าจะได้หายข้องใจ
ด้านผู้ซื้อ นางสุปรียา เรืองศรี ชาวบ้านย่านตลาดประชานิเวศน์ 1 กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้เช่นกัน เพราะกลัวว่าถ้าชั่งกิโลมาเป็นถุงๆ ผู้ซื้อจะไม่มีสิทธิ์เลือก ไข่แต่ละฟองมีขนาดไม่เท่ากัน และถ้ามีการปลอมปนไข่เสีย ไข่เน่ามาด้วยผู้ซื้อก็ไม่อาจรู้ได้
ขณะที่เจ้าของร้านขนมพินัน ซึ่งต้องใช้ไข่ไก่ทำขนมหวานวันละจำนวนมาก กล่าวว่า แต่ละวันต้องใช้ไข่ไก่ทำขนมประมาณ 100 ฟอง ตอนนี้นโยบายดังกล่าวยังไม่บังคับใช้ เลยไม่รู้ว่าจะส่งผลกระทบอย่างไร แต่โดยส่วนตัวเคยชินว่า ทำขนมหวานแต่ละอย่างต้องใช้ไข่ไก่ขนาดไหนกี่ฟอง ต่อแป้ง ต่อน้ำตาล กี่ก.ก. ถ้าเอาไข่ไก่มาใส่ถุงชั่งกิโลขาย คนซื้อก็กะไม่ถูกว่าต้องซื้อไปจำนวนเท่าใด ไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลต้องทำเรื่องไข่ให้เป็นปัญหา รัฐบาลเอาอะไรมาประเมินว่า ซื้อเป็นกิโลแล้วจะถูกกว่าเป็นลูก และผู้บริโภคจะได้ประโยชน์
เช่นเดียวกับ นายสุนทร คลังทอง เจ้าของร้านผัดไทย กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาล เพราะปกติแล้วจะใช้ไข่เบอร์ 4 วันละประมาณ 9-10 แผง ถ้าหยิบชั่งกิโลขายจะรู้ ได้อย่างไรว่าน้ำหนักไข่ลูกไหนขาดเกินเท่าไร เพราะน้ำหนักไข่แต่ละฟองไม่เท่ากัน แต่ถ้าใช้แบบคัดเกรดจะมีความแน่นอนกว่า ขอให้ขายแบบคัดเกรดตามเดิมจะดีกว่า
ข่าวจาก ข่าวสด
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
