คมชัดลึก :หัวลำโพง-หมอชิตคนแน่น แห่กลับฉลองสงกรานต์คึกคัก บขส.ออกมาตรการเข้มคุมพขร. หวังลดตัวเลขอุบัติเหตุ จัดรถเสริมกว่า 5,000 คันต่อวัน "พ่อคูณ" ปลุกเสกน้ำมนต์แจกผู้สัญจรไปมาเพื่อความเป็นสิริมงคล 2 หมื่นขวด พร้อมผ้ายันต์ "อย่าประมาท" อีก 5,000 ผืน ขณะที่ผู้ว่าฯ เชียงใหม่งัดก.ม.ห้ามคนเมาเล่นสงกรานต์
ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อฉลอง
สงกรานต์กันอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่สถานีรถไฟกรุงเทพฯ หรือสถานีรถไฟหัวลำโพง พบว่าต่างคราคร่ำไปด้วยประชาชนที่มาใช้บริการโดยสารรถไฟ ต่างต่อแถวซื้อตั๋วโดยสารเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดกันอย่างคึกคัก ส่วนที่บริเวณลานที่นั่งสำหรับประชาชนภายในสถานีรถไฟหัวลำโพง มีประชาชนจำนวนมากนั่งรอขบวนรถเต็มหมดทุกพื้นที่ ทำให้ผู้ใช้บริการบางส่วนต้องนั่งกับพื้น โดยมีเจ้าหน้าที่คอยเตือนให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในคราบผู้โดยสารและคนเร่ร่อน
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 11-13 เมษายนนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทยจัดเพิ่มขบวนรถอีก 21 ขบวน ได้แก่ เส้นทางกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี และกรุงเทพฯ-อุดรธานี ส่วนวันที่ 16-17 เมษายน เพิ่มอีก 17 ขบวนในเส้นทางเดิม ประชาชนที่จะมาใช้บริการรถไฟฟรีในเส้นทางดังกล่าวจะต้องมาขอรับตั๋วโดยสารในวันเดินทาง และการรถไฟแห่งประเทศไทยยังเพิ่มเจ้าหน้าที่รถไฟและตำรวจรถไฟ ดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนตลอดเส้นทางด้วย
นายสิลรัตน์ ดีวาจี นายสถานีรถไฟเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตั๋วเดินทางกับการรถไฟในช่วงเทศกาล
สงกรานต์นี้ถูกจองเต็มแล้วทุกขบวน ทั้งช่วงขาขึ้นเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 8-13 เมษายน ส่วนช่วงขาล่องเส้นทางเชียงใหม่-กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 14-17 เมษายน สำหรับขบวนรถไฟที่วิ่งเข้า-ออกสถานีรถไฟเชียงใหม่เป็นประจำทุกวัน มีทั้งสิ้น 7 ขบวน แบ่งเป็นขบวนรถด่วน 5 ขบวน ขบวนรถเร็ว 1 ขบวน และขบวนรถท้องถิ่น 1 ขบวน ทั้งนี้ ได้เสริมโบกี้จากกรุงเทพฯ มาสู่ภาคเหนือตอนบนและตอนล่าง แบ่งเป็นขบวนจากกรุงเทพฯ ถึงสถานีบ้านปิน อ.ลอง จ.แพร่ 2 โบกี้ และเพิ่มขบวนรถพิเศษอีก 3 ขบวนจากเส้นทางกรุงเทพฯ ถึงสถานีศิลาอาสน์ จ.อุตรดิตถ์
สำหรับจำนวนผู้โดยสายที่มาใช้บริการที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ในช่วงเทศกาล
สงกรานต์นี้เพิ่มขึ้นจากวันละ 1,200 คน เป็นวันละ 1,500-2,000 คน คาดว่าในวันที่ 12 และ 13 เมษายนนี้จะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาใช้บริการหนาแน่นมากที่สุด เทศกาลปีนี้ถือว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางมา จ.เชียงใหม่ค่อนข้างมากนอกจากส่งผลดีด้านการท่องเที่ยวยังทำให้เศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้นด้วย
ส่วนที่บริเวณอาคารผู้โดยสารสถานีขนส่งหมอชิต 2 ประชาชนจำนวนมากยังคงทยอยเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยการนำสัมภาระและซื้อของฝากกลับไปเยี่ยมญาติยังต่างจังหวัด
จากการสอบถาม นางเมตตา แก่นศรี อายุ 45 ปี ที่เดินทางเข้ามารับจ้างเป็นแม่บ้านในกรุงเทพมหานครนานกว่า 5 ปี ระบุว่า จะเดินทางกลับบ้านที่ จ.นครพนมทุกปี ในแต่ละปีจะจองตั๋วไว้ล่วงหน้า เนื่องจากเกรงว่าจะไม่มีรถกลับในวันที่หยุดงาน โดยมารอขึ้นรถตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ยอมรับว่า รู้สึกกังวลใจในการให้บริการของคนขับรถ ที่บ้านมักจะโทรศัพท์มาสอบถาม เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทขนส่งจำกัด กล่าวว่า บริษัทได้เข้มงวดในการขับรถของพนักงานอย่างเคร่งครัด โดยมีการตรวจวัดแอลกอฮอล์และคนขับ ต้องมีสมรรถนะที่พร้อมให้บริการ จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในการเดินทาง ส่วนการจัดรถเสริม เพื่อให้บริการประชาชนนั้น ยังไม่พบว่ามีปัญหา เนื่องจากได้เพิ่มเที่ยวโดยสารจากปกติวันละ 3,500 เที่ยว เป็นวันละ 5,500 เที่ยว
นายวัฒนา พัทรชนม์ ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงการคาดการณ์จำนวนเที่ยวรถโดยสารที่ให้บริการ และจำนวนผู้โดยสารที่มาใช้บริการในช่วงเทศกาลนี้ มีรถโดยสารจำนวน 1,600 เที่ยวต่อวัน มีผู้โดยสารจำนวน 4.6 หมื่นคนต่อวัน จำแนกเป็นรถผ่าน และรถต้นทางที่ให้บริการทั้งหมด 84 เส้นทาง แยกเป็นรถผ่าน 46 เส้นทาง รถต้นทาง 40 เส้นทาง จำนวนการให้บริการรถผ่าน 870 เที่ยว มีผู้โดยสาร 2.9 หมื่นคนต่อวัน รถต้นทาง 730 เที่ยว มีผู้โดยสาร 1.7 หมื่นคนต่อวัน
ส่วนการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ที่ผ่านมาปัญหาที่เกิดขึ้นทุกปี คือรถโดยสารสาย 21 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ที่ไม่เพียงพอในการรองรับผู้โดยสาร ขณะนี้ได้รับการตอบรับจากบริษัทเชิดชัยทัวร์ในการจัดเตรียมรถโดยสารไม่ประจำทางอีกจำนวน 50 เที่ยวต่อวัน สำรองไว้ ส่วนความพร้อมเรื่องผู้ขับขี่รถโดยสารและสภาพรถโดยสาร เราได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสภาพรถของทางขนส่งเข้าไปตรวจสอบรถโดยสารทุกคันที่จะนำมาวิ่งรับ-ส่งผู้โดยสาร
ในส่วนการรับมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผบช.ภ.3 เปิดเผยถึงมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาล
สงกรานต์ปี 2554 ในพื้นที่รับผิดชอบว่า ที่ผ่านมาการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับกฎระเบียบ วินัยจราจรได้ปฏิบัติกันมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ 7 วันอันตรายในช่วงเทศกาล แต่เราได้ดำเนินการตลอด 365 วัน
อย่างไรก็ตาม เราได้ระดมเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังกวดขัน และบังคับใช้กฎหมายในช่วงเทศกาลเป็นพิเศษ เนื่องจากมีปริมาณยานพาหนะของประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมากกว่าปกติหลายเท่า ตามเส้นทางจราจรสายหลักและสายรองได้เพิ่มกำลังตำรวจประจำจุดตรวจวัดความเร็ว
พล.ต.ท.เดชาวัตกล่าวว่า จุดตรวจปริมาณแอลกอฮอล์เส้นทางสายหลักจะมีจุดตรวจ 996 แห่ง เส้นทางสายรอง ถนนภายในหมู่บ้าน อปท. รวมทั้งทางแยกทางร่วมต่างๆ กว่า 1,500 แห่ง สิ่งเหล่านี้เราต้องการเตือนให้ผู้ขับขี่ไม่ประมาท ซึ่งการเพิ่มความถี่ในการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด อาจทำให้เกิดอุปสรรคเรื่องเวลาในการเดินทางมากขึ้น แต่ความปลอดภัยที่ได้รับจะมีมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือวินัยในการใช้รถใช้ถนนภายในหมู่บ้าน โดยเฉพาะผู้ที่ขี่จักรยานยนต์มีอาการเมาแล้วขับ ไม่สวมหมวกนิรภัย จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ซึ่งเราได้จัดสรรกำลังอาสาสมัคร เจ้าหน้าที่ตำรวจบ้านที่ผ่านการฝึกอบรม ร่วมกับฝ่ายปกครองรวมกว่า 3.3 หมื่นนาย ที่จะเข้ามาสนับสนุนตำรวจในพื้นที่ที่มีจำนวนกว่า 2 หมื่นนาย รวมแล้วกว่า 5 หมื่นนาย
เช้าวันเดียวกัน ที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พ.ต.ท.พัฒนศักดิ์ ยี่สารพัฒน์ สว.ส.ทล.1 กก.6 บก.ทล.นครราชสีมา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ได้นำน้ำดื่ม และผ้ายันต์ ถวายพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อธิษฐานจิตพิธีปลุกเสกน้ำมนต์ เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาล
สงกรานต์ และเพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นการเตือนสติในการใช้รถใช้ถนนช่วงเทศกาล
สงกรานต์ปีนี้
พ.ต.ท.พัฒนศักดิ์กล่าวว่า ตำรวจทางหลวงจะเพิ่มความเข้มในการออกตระเวนตรวจในเส้นทางและตั้งจุดสกัดเพื่อจับกุมการกระทำผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก ที่เป็นสาเหตุสำคัญให้เกิดอุบัติเหตุ และสนธิกำลัง อาสาสมัครจราจรตำรวจทางหลวง จำนวน 250 คน ที่ผ่านการฝึกอบรม เป็นเครือข่ายสนับสนุนข้อมูลด้านการจราจร พร้อมให้บริการ และช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยร่วมกับท้องถิ่น ตั้งจุดบริการประชาชน จำนวน 13 แห่ง บริเวณหน้าสถานีทางหลวง ให้บริการน้ำดื่ม-ผ้าเย็น เครื่องดื่มชูกำลัง และแจกน้ำมนต์ ที่ได้รับการปลุกเสกจากหลวงพ่อคูณ จำนวน 2 หมื่นขวด และผ้ายันต์ เพื่อเตือนสติในการใช้รถใช้ถนน "อย่าประมาท" จำนวน 5,000 ผืน รวมทั้งจุดที่พักรถชั่วคราว ให้ข้อมูลเส้นทางลัด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจราจรติดขัดในเส้นทางหลัก
ด้าน ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ช่วงเทศกาล
สงกรานต์ของ จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 10-17 เมษายน ได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ประกาศควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จ.เชียงใหม่ ประกาศให้พื้นที่บริเวณหน้าโบสถ์คริสตจักรที่ 1 หน้าสวนหย่อมหลังจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และสวมหย่อมรอบคูเมือง จ.เชียงใหม่ เป็นพื้นที่สวนสาธารณะห้ามไม่ให้จำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และหากมีการฝ่าฝืนให้ใช้มาตรการทางกฎหมายโดยเคร่งเครัด
ข่าวจาก คมชัดลึก