ผัวปืนโหด ยิง ส.จ.โคราช คนสนิท 'สุวัจน์ ลิปตพัลลภ' เสียชีวิตพร้อมลูกชาย 2 ศพ ก่อนเขียนจดหมายสารภาพ สาเหตุทะเลาะกันรุนแรง หลังถูกเมียจับได้มีกิ๊ก หนีไปฆ่าตัวตายตามที่อื่น แต่ยังหาไม่พบ...
เมื่อ เวลา 07.00 น. วันที่ 20 พ.ค. 2554 พ.ต.ท.สายัญ แบ่งสันเทียะ สารวัตรเวร สภ.เมืองนครราชสีมา ได้รับแจ้งมีคนร้ายก่อเหตุยิงบุคคล เสียชีวิต 2 ศพ ภายในบ้านพักหลังร้านอาหารลานตะวัน ริมสวนน้ำเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (บุ่งตาหลัว) ซอยริมบุ่ง ถ.เดชอุดม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยหนึ่งในผู้เสียชีวิต คือ นางวนิดา เสตะปุตตะ หรือ ส.จ.หมู อายุ 50 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เขต 5 อ.เมืองฯ 2 สมัย ซึ่งทีมงาน และ คนสนิทใกล้ชิด นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน และ อดีตเป็นผู้ช่วย ส.ส.สุวัจน์ ลิปตพัลลภ และ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รักษาการ รมว.พลังงาน รวมทั้ง ส.ส.วัชรพล โตมรศักดิ์ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมรายงานให้ พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รอง ผบก.ภ.นครราชสีมา พ.ต.อ.ผดุงเกียรติ ศิริพร วิวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองฯ พ.ต.ท.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผกก.ป.สภ.เมืองฯ พ.ต.ท.พิเชษฐ อรชุน รอง ผกก.สส.สภ.เมือง พ.ต.ท.ปราโมทย์ สิมหลวง รอง ผกก.จร.สภ.เมือง รุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างเมตตา และแพทย์ รพ.มหาราชนครราชสีมาชันสูตรพลิกศพ
โดยในที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักเลข ที่ 1469 / 8 ริมสวนน้ำบุ่งตาหลัว ถ.เดชอุดม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านพักของนางวนิดา เสตะปุตตะ อายุ 50 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา คนสนิทนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ซึ่งอยู่ด้านหลังร้านอาหารลานตะวัน ริมสวนน้ำเฉลิมพระเกียรติ ร.9 เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ที่มีนางวนิดา เจ้าของบ้านและเป็นเจ้าของร้านอาหารฯ เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าภายในห้องทำงาน พบศพนางวนิดา อยู่ในชุดนอนสีน้ำตาลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด จุด 38 เข้าที่ขมับด้านขวา และทะลุหัวและยังทะบุกระจกหน้าต่าง นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตทับร่างนายเจษฎา เสตะปุตตะ เป็นเจ้าหน้าที่ อบต.บ้านเกาะ อ.เมืองฯ สวมเสื้อยืดลายทางสีดำ กางเกงขาสั้นสีครีม อายุ 29 ปี บุตรชาย ซึ่งถูกยิงเข้าที่ขมับขวานอนหงายหน้าด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันเสียชีวิต โดยมีกองเลือดนองเจิ่งพื้นไปทั่ว มีกลิ่นคราวเลือดคละคลุ้งไปทั่วห้อง พร้อมกับได้ค้นทั่วบ้านพักและบริเวณโดยรอบ พบปลอกกระสุนปืนลูกโม่ ขนาด จุด 38 จำนวน 1 ปลอก ตกอยู่ภายในรางระบายน้ำข้างห้องทำงานที่ผู้ตายทั้ง 2 เสียชีวิต และพบจดหมายซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ ลงชื่อคือนายไสว ขันผักแว่น อายุ 50 ปี อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นสามีใหม่ของนางวนิดาผู้ตาย วางอยู่ภายในห้องพระข้างห้องทำงาน พร้อมกับซองกระสุนปืน
โดยข้อความในจดหมายมีใจความระบายถึงสาเหตุที่ ลงมือสังหารภรรยาพร้อมบุตรชาย เนื่องจากนายไสว มีปัญหาเรื่องชู้สาวกับพนักงานในร้านอาหาร และทางนางวนิดา ล่วงรู้เข้า จึงเกิดการทะเลาะกันขึ้นอย่างรุนแรง จากนั้น ลูกเลี้ยง คือ นายเจษฎา ลูกติดจากสามีเก่าของนางวนิดา จะเข้ามาห้ามจึงได้อาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะก่อนยิงนางวนิดาเสียชีวิตตาม จากนั้นได้นั่งเขียนจดหมายเพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะหลบไปฆ่าตัวตายตามในภายหลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ค้นทั่วบ้านพักและบริเวณโดยรอบร้านอาหารทั้งหมด ไม่พบคนร้าย แต่ทราบจากชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนั้นว่าพบเห็นนายไสว ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน เอ็นวี สีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน บษ 2229 หลบหนีออกจากบ้านไปแล้ว โดยก่อนหลบหนียังได้ขอเงินจากแม่ผู้ตาย 10,000 บาท เพื่อจะไปฆ่าตัวตาย จึงมีการวิทยุประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ข้างเคียงให้ตั้งด่านสกัดทุกเส้นทางเพื่อเร่งติดตามตัวคนร้าย เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน และต้องการที่จะฆ่าตัวตาย พร้อมกับนำกำลังออกค้นหาในทุกที่ที่ผู้ตายเคยไป แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบตัวผู้ต้องหาแต่อย่างใด
ต่อมา พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายกำลังออกต้นหาผู้ตายอย่างเร่งด่วน เนื่องจากยังคงมีอาวุธปืนอยู่ในครอบครอง ซึ่งอาจจะก่อเหตุทำร้ายตนเองและบุคคลอื่นอีกได้ พร้อมให้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ข้างเคียงวิทยุสกัดจับรถยนต์เป้าหมายทุกทิศทาง
พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษฤทธิ์ศักย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยภายหลังตรวจที่เกิดเหตุว่า จากการสอบสวนญาติ และ พนักงานในร้านอาหารของผู้ตายทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 00.15 น. ของคืนวันนี้ นายไสว ได้ทะเลาะกับนางวนิดา เรื่องปัญหาภายในครอบครัวอย่างรุนแรง แต่ญาติของทั้งสองคนก็มาห้ามปรามไว้ จากนั้นหลังปิดร้านอาหารแล้ว นายไสว ได้พยายามเข้าไปเคลียร์ปัญหากับนางวนิดา ภายในห้องพักหลังร้านอาหารโดยเฉพาะเรื่องชูสาวเนื่องจากนางวนิดาฯจับได้ว่า นายไสว แอบไปมีผู้หญิงคนใหม่ แต่ทั้งสองไม่สามารถตกลงกันได้
นายไสว จึงไปนำปืนพกขนาด จุด 38 จากห้องนอนมาทำท่า จ่อที่บริเวณศีรษะนางวนิดา ทำให้นางวนิดา ถึงกับต้องร้องตะโกนเสียงดังเพื่อให้คนในร้านมาช่วย ขณะนั้นลูกชาย นางวนิดา ซึ่งอยู่ชั้น 2 ในร้านอาหารได้ยินเสียงแม่ร้องขอความช่วยเหลือ จึงหยิบไม้แล้ววิ่งเข้าไปห้ามเพื่อจะช่วยเหลือเเม่ นายไสวฯจึงใช้อาวุธปืนยิงทั้งสองคนที่ศีรษะจนเสียชีวิต ก่อนจะปิดล็อกประตูห้อง ทิ้งศพทั้งสองคนเอาไว้ แล้วเขียนจดหมายทิ้งไว้ 4 หน้ากระดาษ แล้วขับรถหลบหนีไป โดยคดีดังกล่าวไม่เกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง แต่อย่างใด เป็นเรื่องปัญหาภายในครอบครัวของทั้งสองคนที่มีมานานแล้ว
ข่าวจาก ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/region/172829