กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
อาละวาดสร้างวิมานกลางอากาศมานานแล้ว
สำหรับบริการเซ็กซ์โฟน 1900...
ที่เปิดให้บริการสายเสียวให้กับลูกค้าจำพวกหนุ่มเปล่าเปลี่ยวหาความสุขกับเสียงสาวๆ
ทางโทรศัพท์ เปิดให้บริการเซ็กซ์โฟนแฝงมาในรูปของเพื่อนสาวคลายเหงา
ล่อให้หนุ่มๆ มาติดกับผิดกฎหมายผิดศีลธรรมแต่ก็ยังยืนหยัดอยู่ได้ตั้งนาน!??
แต่บัดนี้บริการเซ็กซ์โฟน 1900... ได้ถูกทลายลงแล้ว
ด้วยฝีมือของตำรวจปดส.ที่ส่งสายเข้าไปล้วงความลับหาช่องทางดำเนินคดีทางกฎหมายจนได้
ที่ผ่านมา
ยากต่อการจับกุมเพราะคนกลุ่มนี้รู้ช่องทางในการหลีกเลี่ยงข้อกฎหมายเป็นอย่างดี
แต่มาคราวนี้เจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐานได้ชัด จึงบุกจับกุมทันที
เวลาของเซ็กซ์โฟนสิ้นสุดลงแล้ว
การทลายบริษัทเซ็กซ์โฟนเริ่มขึ้นตอนเช้าวันที่ 26 มิ.ย. พล.ต.ต.วิมล
เปาอินทร์ ผบก.ปดส. สั่งการให้พ.ต.อ.นรศักดิ์ เหมนิธิ รอง ผบก.ปดส.
พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.1 บก.ปดส. พ.ต.ท.ปัญญา ชะเอมเทศ สว.กก.1
บก.ปดส.
นำกำลังพร้อมหมายค้นและหมายจับของศาลอาญา
เข้าตรวจค้นที่บริษัทไม่มีชื่อ ตั้งอยู่เลขที่ 252/16 ชั้น 12
อาคารเมืองไทยภัทรคอมเพล็กซ์ ทาวเวอร์ เลขที่ 1 ถนนรัชดาภิเษก
แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.
หลังสืบทราบมาว่าบริษัทแห่งนี้เปิดให้บริการเซ็กซ์โฟน 1900-555-566
แต่ทำเป็นสายเพื่อนสาวคลายเหงาบังหน้า
ก่อนหน้านี้ตำรวจได้ข้อมูลมาจากกลุ่มมูลนิธิกระจกเงา
ซึ่งได้ร้องเรียนเข้ามาว่าที่บริษัทดังกล่าวมีการโฆษณาให้บริการสายด่วนเบอร์เดียวไม่มีเหงา
ตลอด 24 ชั่วโมง คิดค่าบริการนาทีละ 13 บาท
และมีการโฆษณาผ่านทางสื่อสิ่งพิมพ์อีกหลายฉบับ
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ส่งสายเข้าไปทำทีเป็นพนักงาน
จนรู้ชัดว่ารูปแบบการบริการเป็นการเล่นเซ็กซ์โฟน
โดยจะมีพนักงานหญิงสาวพูดจาโต้ตอบในเชิงลามกอนาจารกับลูกค้าที่โทร.เข้ามา
ไปจนถึงเรื่องการใช้ถ้อยคำให้เกิดจินตนาการเพื่อสำเร็จความใคร่ให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ
การเข้าจับกุมเจ้าหน้าที่บุกเข้าชาร์จแบบสายฟ้าแลบ
เข้าปิดล้อมสถานที่ดังกล่าวไว้ชนิดที่คนในบริษัทไม่ทันตั้งตัว
ห้วงนั้นพบหญิงสาววัยรุ่นจำนวน 14 คน
กำลังทำหน้าที่เพื่อนสาวคลายเหงาอยู่ตามโต๊ะ
โดยแต่ละโต๊ะจะมีโทรศัพท์วางประจำอยู่โต๊ะละ 1 เครื่อง
เมื่อเห็นตำรวจบุกจับทุกคนต่างพากันตื่นตระหนกไม่คิดว่าตำรวจจะบุกเข้ามาแบบนี้
เจ้าหน้าที่ตรวจยึดโทรศัพท์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไว้เป็นของกลาง
พร้อมควบคุมตัวนายณัฐพล หรือ "เบิ้ม" เกตุโกมล อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่
25/3 หมู่ 4 ต.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี หัวหน้างานผู้ดูแล
และนายเอกอนันต์ สิงห์จำนงค์ อายุ 52 ปี ผู้จัดการบริษัท
ตามหมายจับศาลอาญาที่
1936/ 2550 และ 1938/2550 ลงวันที่ 25 มิ.ย.
ในข้อหาเพื่อประสงค์แห่งการค้าเผยแพร่สิ่งลามก
และเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่นเป็นธุระจัดหา ล่อไป พาไป
เพื่อให้บุคคลอื่นกระทำการค้าประเวณีไปดำเนินคดีที่ปดส.
นอกจากนี้ ยังมีนายวิภาค เกตุโกมล อายุ 26 ปี พี่ชายนายณัฐพล
ที่ยังหนีไปได้อีก 1 คน เจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ส่วนหญิงสาวเหล่านี้ตำรวจได้กันตัวไว้เป็นพยานเล่นงานเจ้าของบริษัท
ทุกคนยอมรับขายเสียงขายเสียวแลกกับรายได้ สำหรับพนักงานสาวส่วนใหญ่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยที่มาทำงานหาลำไพ่พิเศษ
น.ส.หวาน (นามสมมติ) อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์
มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เล่าว่า ทำงานนี้มาระยะหนึ่งแล้ว
คิดว่าดีกว่าไปทำงานต้อนรับหรือเชียร์เครื่องดื่มตามสถานบันเทิงตอนกลางคืน
อีกทั้งยังเป็นงานที่ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายใดๆ การทำงานจะแบ่งเป็น 3 กะ
กะละ 8 ชั่วโมง ได้ค่าแรงวันละ 200-300 บาท เดือนหนึ่งตกเป็นเงินประมาณ
6,000 บาท
จะมาทำงานเวลาใดก็ได้ เนื่องจากมีการบันทึกการเข้างานด้วยการสแกนลายนิ้วมือ หน้าที่คือคอยรับโทรศัพท์จากลูกค้าอย่างเดียว
ลูกค้าส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 95 ที่โทร.เข้ามา
ต้องการใช้บริการแบบเซ็กซ์โฟน โดยพวกเราจะคอยทำเสียงครวญครางไปตามประสา
เพื่อให้คล้อยไปตามอารมณ์ของลูกค้า
สำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการส่วนใหญ่
จะมีน้ำเสียงเหมือนคนที่มีหน้าที่การงานดี แต่ละรายจะใช้บริการไม่ต่ำกว่า
2 ชั่วโมง สูงสุดเท่าที่เคยคุยนั้น นานถึง 5 ชั่วโมง
ลูกค้าบางรายสงสารพนักงาน เพราะต้องทำยอดเวลาให้ถึง 300
นาทีถึงจะได้เงินพิเศษ ก็โทร.มาเพื่อให้เด็กได้เวลา แต่ไม่ได้คุยอะไรกัน
แค่ปล่อยสายไว้เฉยๆ
เมื่อผ่านไปหลายชั่วโมงก็วางหูไปก็มี
สำหรับในเรื่องการติดต่อกันเป็นพิเศษในทางอื่น
ขอยืนยันว่าพนักงานทั้งหมดไม่ให้บริการทางเพศ
หรืออะไรที่นอกเหนือไปจากการรับโทรศัพท์
เพราะเรื่องแบบนี้หากบริษัททราบจะถูกไล่ออกทันที
จากการสอบสวนนายเอกอนันต์และนายณัฐพล ผู้ดูแลกิจการยังคงให้การปฏิเสธ
อ้างว่าทางบริษัทเปิดให้การบริการพูดคุยโทรศัพท์เป็นเพื่อนเท่านั้น
แถมยังโบ้ยไม่รู้ว่า ลูกน้องจะทำเป็นอย่างอื่นแบบนี้
ก่อนจะยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 1.5 แสนบาทขอประกันตัวกลับไป
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ดูแลกิจการ
เพราะเป็นไปไม่ได้ที่อยู่ด้วยกันจะไม่รู้พฤติกรรมของลูกจ้าง
พนักงานสอบสวนจึงเตรียมรวบรวมหลักฐานสรุปสำนวนส่งฟ้องทันที
มีโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 (1)
และพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี
มาตรา 9 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ และจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาทตามลำดับ
ผิดถูกไปว่ากันในชั้นศาล
นอกเหนือจากบริษัท 1900...ขายเสียงสยิวบริษัทนี้แล้ว
เจ้าหน้าที่ยังพบบริษัทที่เปิดขายบริการเซ็กซ์โฟนในลักษณะเดียวกันอีกหลายบริษัท
แต่เมื่อมีข่าวนี้แพร่สะพัดออกไปบริษัทเหล่านั้นก็ทยอยปิดตัวเองทันทีเพราะกลัวโดนจับ
นอกจากนี้ ทางบริษัททีโอที
ยังได้สั่งระงับการให้บริการกับบริษัทที่ทำธุรกิจแบบนี้เป็นการด่วนแล้ว
ส่วนเส้นทางในการขอเปิดทำธุรกิจเซ็กซ์โฟน เจ้าหน้าที่สืบทราบมาว่า
ทางบริษัทผู้จัดทำจะขอสัมปทานสายด่วนจากบริษัท ทีโอที
เพื่อนำมาใช้บริการให้กับลูกค้า
อ้างเพียงแค่หาผู้หญิงมาคุยกับผู้ชายเพื่อคลายเหงา
แต่เบื้องหลังแฝงบริการเซ็กซ์โฟน ลงโฆษณาตามสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ
ลูกค้าที่โทร.เข้าไปจะเสียค่าบริการนาทีละ 13 บาท
โดยแบ่งส่วนต่างให้กับบริษัท ทีโอที 6 บาท ผู้ประกอบการได้ 7 บาท
นำไปแบ่งเป็นค่าตัวเด็ก
วิธีการรับสมัครพนักงานจะคัดเด็กที่มีน้ำเสียงใสหวาน ชอบออดอ้อน
เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ หลอกล่อให้พูดคุยนานๆ
พนักงานเหล่านี้ทางบริษัทจะจ้างเป็นรายวัน โดยจะให้ทำงานเป็นกะ
แต่ละคนจะได้ค่าจ้างกะละ 270 บาท หากใครก็ตามสามารถทำให้ลูกค้าโทร.นานถึง
300 นาที จะได้รับเงินตอบแทนเพิ่มอีก 100 บาท รวมเป็นเงิน 370 บาท
ซึ่งในวันหนึ่งๆ จะแบ่งพนักงานเข้านั่งรับสายลูกค้ากะละ 15 คน 15 สาย
ดังนั้น หากคิดค่าบริการที่ได้จากการเปิดสายด่วนต่อเดือน
จะตกเป็นเงินร่วมล้านบาทเลยทีเดียว!?!ผิดทั้งกฎหมายขัดทั้งศีลธรรมแบบนี้ต้องดำเนินคดีและกวาดล้างให้สิ้นซาก
ที่มาจาก
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|