รัฐมนตรียุติธรรม เปิดวีดีโอ แฉตำรวจ ยืนยัน นักร้องนำวงเบิร์น เป็นแพะ ไฟไหม้ซานติก้า จ่อชงเป็นคดีพิเศษ 11 ก.พ. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) แถลงสรุปผลตรวจสอบกรณีเพลิงไหม้ซานติก้าผับของกระทรวงยุติธรรม โดยมีการนำภาพที่บันทึกจากกล้องวงจรปิดวิดีโอ ภายในซานติก้า ผับ ที่ถูกเพลิงไหม้และตกอยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมภาพการทดลองยิงพลุไฟเอฟเฟคใส่ฝ้าเพดาน ของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มาใช้ประกอบในการแถลงข่าว
นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบความผิดในหลายประเด็น ดังนั้น กระทรวงยุติธรรมจะเสนอคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เพื่อรับโอนคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษในวันที่ 11 ก.พ.นี้ โดยจะนำเสนอรายงานผลการตรวจสอบต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 3 ก.พ.นี้ โดยภาพหลักฐานที่ไม่เคยปรากฏที่ใดมาก่อน ซึ่งทีมงานของกระทรวงยุติธรรมพบจากการตรวจสอบ 3 วันหลังเกิดเหตุ เป็นภาพจากกล้องวิดีโอที่ถูกไฟไหม้ โดยเนื้อหาภายในภาพแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการสอบสวนและคำให้การของพยานต่อพนักงานสอบสวนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งระบุว่านักร้องนำวงเบิร์น เป็นผู้จุดไฟแช็คที่หน้ากลองจนเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้ แต่ภาพจากกล้องวิดีโอของซานติก้าผับ บ่งชี้ว่ามีลูกไฟเกิดขึ้นหลังจุดเอฟเฟคนาน 2.57 นาที โดยเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนนักร้อง และนักร้องคนที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเดินหลบไปข้างเวที อีกทั้งไม่มีภาพนักร้องเป็นผู้จุดพลุตามที่พยานให้การ นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า ข้อมูลจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า พลุเอฟเฟคจุดด้วยชนวนไฟฟ้าไม่ได้ใช้ไฟแช็คจึงมีการจุดพลุทดสอบ เพื่อเปรียบเทียบระยะเวลาของการเกิดเพลิงไหม้จนกระทั่งลุกลามหนักซึ่งผลการทดสอบไม่ตรงกับเหตุการณ์จริง เพราะในสถานการณ์จำลองต้องใช้เวลานานกว่าไฟจะลุกลาม ขณะที่ภาพจากวิดีโอเห็นได้ชัดว่าใช้เวลาเพียง 2 นาทีเศษ ไฟก็ลุกลามจนทำให้หนีไม่ทัน จึงสันนิษฐานว่าอุปกรณ์บนฝ้าเพดานอาจมีวัสดุอื่นที่ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว และมีลูกไฟและโครงสร้างฝ้าเพดานถล่มลงมา ดังนั้น จึงอยากให้พยานบุคคลทบทวนเหตุการณ์เพลิงไหม้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม มีประเด็นน่าสังเกตว่าคดีนี้เดิมมีพยานติดต่อขอให้ข้อมูลจำนวนมาก แต่ภายหลังกลับไม่สามารถติดตามพยานได้ บางรายก็หายตัวไป นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบห้องพักเจ้าหน้าที่และห้องพักนักดนตรีด้วยเครื่อง GCMS ซึ่งเป็นเครื่องตรวจหาสารเสพติด พบผงเฮโรอีนและโคเคนปนเปื้อนอยู่บนสายรัดเงิน โซฟา ตู้เอกสาร และลิ้นชักต่าง ๆ จึงเชื่อว่าซานติก้าผับมีการซื้อขายยาเสพติด โดยมอบหมายให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) สอบสวนขยายผลต่อไป นอกจากนี้ ยังสั่งการให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) สอบสวนประเด็นฟอกเงิน เนื่องจากผลการตรวจสอบทางบัญชี พบการโอนเงินเข้ามาในซานติก้า ผับ จำนวน 20 ล้านบาท โดยอ้างงว่าบริษัทจำหน่ายสุราแห่งหนึ่งมอบให้ แต่เมื่อสอบถามไปยังบริษัทจำหน่ายสุราได้ปฏิเสธว่าไม่เคยมอบเงินสดให้ จะมีก็เพียงโปรโมชั่นอื่น ๆ นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า อีกประเด็นที่น่าสงสัย ภายหลังการเข้ามาถือหุ้นในบริษัทไวท์แอนด์บราเธอร์ จำกัด ของบุคคลคนหนึ่ง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2549 ตำรวจก็ไม่เคยเข้าจับกุมซานติก้า ผับ อีกเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยมีการจับกุมฐานเปิดสถานบริการโดยไม่รับอนุญาตและจำหน่ายสุราในเวลาห้ามจำหน่ายเกือบจะวันเว้นวัน รวมถึง 47 ครั้ง ส่วนนายสุริยา ฤทธิ์ระบือ ผู้จัดการบริษัทไวท์แอนด์บราเธอร์ จำกัด การตรวจสอบพบว่ามีประวัติเสพยาเสพติด ประกอบอาชีพขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และทำหน้าที่เป็นเด็กรับรถในลานจอดรถยนต์ นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบรายการเสียภาษี พบว่า ซานติก้าผับไม่เคยเสียภาษีสรรพสามิต ตลอดระยะเวลาที่เปิดให้บริการนาน 5 ปี นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการปลอมลายเซ็นของสถาปนิกผู้ออกแบบ และวิศวกรผู้คุมงานก่อสร้าง จึงเชื่อว่าอาจเป็นขบวนการปลอมแปลงใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร เพราะมีการใช้ชื่อวิศวกรคนดังกล่าวไปยื่นขออนุญาตก่อสร้างอาคารอีก 33 แห่ง จึงต้องประสานให้กรุงเทพมหานครตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ทีมงานนิติศาสตร์ได้ตั้งสมมติฐานของเพลิงไหม้ไว้ 2 ประเด็น คือ เกิดจากพลุเอฟเฟค หรือมีวัสดุบางอย่างอยู่บนฝ้าเพดาน เมื่อมีพลุไฟยิงขึ้นไปจึงเกิดเพลิงลุกไหม้อยู่บนฝ้า เมื่อเพลิงลุกลามจึงตกลงมาและถล่มใส่คนที่อยู่ด้านล่าง อย่างไรก็ตาม ตนมีหลักฐานอีก 1 จุด คือ มีเพลิงลุกไหม้ที่โซนวีไอพี แต่จะต้องใช้เวลาตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก โพสต์ทูเดย์